ไรเซน เอนเนอร์จี ส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า “บีวายดี อีซิกส์” (BYD e6) จำนวน 101 คัน ให้แก่บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสานความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งสาธารณะครั้งแรกของประเทศไทย ในโครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” (EV Taxi VIP) เพื่อยกระดับคุณภาพรถและบริการของแท็กซี่ไทย โดยจะเริ่มประจำการที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป สามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก หรือผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ โทร. 0 2039 8888 ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบันทั่วโลกมียานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 3,000,000 คัน โดยในปี 2560 การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวมากขึ้นในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ เยอรมนี ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน สำหรับประเทศไทย คาดว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการขนส่งสาธารณะ ตามนโยบายพลังงาน 4.0 ของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 1,200,000 คัน ภายในปี 2579 เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ตามแผนแม่บทการอนุรักษ์พลังงาน
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแนวทางในการขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้สูงขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และแนวทางการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างปลอดภัย ซึ่งทำให้เกิดการขับเคลื่อนสนับสนุนการเติบโตของของยานยนต์ไฟฟ้า และกระทรวงคมนาคมยังได้เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้การเปิดตัว EV Taxi VIP ภายใต้การยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่มีคุณภาพในทุกด้าน ทั้งการยกระดับการให้บริการระดับมืออาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ พร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากการคมนาคมขนส่งเพิ่มเติม อีกทั้งยังลดการใช้น้ำมันลง เนื่องจากรถที่นำมาใช้ให้บริการเป็น EV Taxi VIP เป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน เพิ่มจำนวน Taxi VIP ซึ่งเป็นการให้บริการรถหรูระดับพรีเมี่ยม ที่มีมาตรฐานครอบคลุมในทุกมิติตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยมีสถานีอัดประจุไฟ Charging station ให้บริการทั้งหมด 30 แห่งทั่วกรุงเทพ เพียงพอกับความต้องการใช้งานของรถ EV Taxi VIP นอกจากนี้ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้กับรถ EV Taxi VIP ส่งเสริมความเป็น Smart Airport ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสร้างเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งในการใช้รถโดยสารสาธารณะพลังงานทางเลือกที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการ โดยเฉพาะการยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยให้มีคุณภาพความปลอดภัยและการให้บริการภายใต้โครงการ Taxi OK และ Taxi VIP โดยนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือบริหารสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนด้วยบริการด้วยรถสาธารณะที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะ Taxi VIP ซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการเดินทางที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับรองรับความต้องการกลุ่มผู้โดยสาร เช่น ลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายและการให้บริการในการเดินทางระดับพรีเมี่ยม ในส่วนของความร่วมมือของภาคเอกชนครั้งนี้ บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BYD e6 (บีวายดี อีซิกซ์) มาให้บริการเป็น Taxi VIP ซึ่งจะเป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้า 100% กลุ่มแรกของประเทศไทย เนื่องจากรถ BYD e6 เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จะพร้อมให้บริการ EV Taxi VIP ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป และบริษัทฯ ตั้งเป้ามีรถ EV Taxi VIP ให้บริการ 101 คัน ภายในปี 2561
ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของสมาคมฯ ซึ่งนอกจากจะผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่จะมีให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ การนำร่องใช้แท็กซี่ไฟฟ้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยตื่นตัว กระตุ้นการวิจัยและพัฒนา และแสดงความพร้อมในการเดินหน้าเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดมลภาวะในภาคคมนาคมขนส่ง
นายศุภจิตร สิงหนุ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการขนส่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก และมีพันธกิจในการประกอบกิจการอย่างยั่งยืนของท่าอากาศยานไทย โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสนามบินไปสู่การเป็นสมาร์ทแอร์พอร์ต (Smart Airport) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ณ จุดจอดรถบริเวณ ชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 5 ช่องจอด รวมทั้งลานจอดรถระยะไกล นอกจากนี้ ยังมีแผนการติดตั้งจุดชาร์จไฟในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่อาคารจอดรถ 2 และ 3 รวมทั้งจุดจอดรถระยะยาว สามารถรองรับการชาร์จไฟของ ‘อีวี แท็กซี่ วีไอพี’ ทั้ง 101 คัน รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นในอนาคต
นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “ด้วยมาตรฐานการผลิตที่มีความเสถียรและปลอดภัยระดับโลกของ บีวายดี ออโต้ ผู้นำในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมของโลกมากว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกด้วยยอดขายกว่า 200,000 คันต่อปี ในกว่า 40 ประเทศ ผสานกับการบริหารที่มีประสิทธิภาพของ อีวี โซไซตี้ ทั้งด้านการจัดการและการฝึกอบรมพนักงานขับรถ ด้านมาตรฐานบริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น ประกอบกับความพร้อมของ ไรเซน เอนเนอร์จี ในการให้บริการหลังการขาย ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและผ่านการอบรม\ด้านซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างดี รวมถึงให้บริการอะไหล่คุณภาพ โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จึงเป็นการยกระดับบริการรถสาธารณะและคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ”
“การผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าบีวายดี อีซิกส์ (BYD e6) ภายใต้โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” โดยความร่วมมือของบริษัท อีวี โซไซตี้ และพันธมิตรในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ซึ่งมีราคาที่แข่งขันกับรถยนต์ทั่วไปได้ เนื่องจากต้นทุนแบตเตอรี่ลดลงประมาณ 12-15% ทุกปี นอกจากนี้ แรงผลักดันจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ ทั้งในเรื่องการผ่อนปรนกฎระเบียบ การสนับสนุนเงินอุดหนุนทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งความต่อเนื่องและความชัดเจนของนโยบาย เป็นส่วนช่วยให้เราเดินหน้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมและแพร่หลายมากขึ้น” นายอภิชาติ กล่าวสรุป
สำหรับผู้ให้บริการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการบริษัท บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มุ่งพัฒนาบริการของแท็กซี่ไทยให้ สะดวก ปลอดภัย และเป็นมืออาชีพ ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งต้องการส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาด เพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล โดย “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยผู้สนใจสามารถเรียกใช้บริการผ่าน 3 ช่องทาง ทั้งบริเวณเคาน์เตอร์ศูนย์บริการ ชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ แอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก และคอลล์เซ็นเตอร์ โทร. 0 2039 8888 สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรถัดไป คิดอัตรากิโลเมตรละ 16 บาท โดยมีโปรโมชั่นส่วนลด 5% เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต อาลีเพย์ วีแชท แรบบิทไลน์เพย์”
“บริษัทได้ฝึกอบรมพนักงานขับรถโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการรถโดยสารสาธารณะจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งการทดสอบทั้งด้านมารยาทการให้บริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรคือ เจพี ประกันภัยในการสนับสนุนเบี้ยประกันภัยอัตราพิเศษที่ครอบคลุมทั้งตัวรถ คนขับ และผู้โดยสาร ขณะที่ อีเอ พันธมิตรผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟและซัสโก้ สนับสนุนให้รถ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” ทั้ง 101 คันชาร์จไฟฟรี ณ สถานบริการน้ำมันและชาร์จไฟซัสโก้ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาบางปะกอก (ซัสโก้สำนักงานใหญ่ ถนนราษฎร์บูรณะ) กาญจนาภิเษก บางยอ เอกชัย เสนานิคม ศรีนครินทร์ 1 และศรีนครินทร์ 3 จนถึงสิ้นปี 2561” นายสรยุทธ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น