ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน “Thailand Focus 2018: The Future is Now” ย้ำโอกาสการลงทุนในตลาดทุนไทยในวันนี้ เชื่อมต่อการลงทุนในอนาคต เผยปีนี้มีผู้ลงทุนสถาบันหน้าใหม่ อาทิ กลุ่มสแกนดิเนเวีย และเอเชียตะวันออก สนใจลงทุนในไทยโดยเดินทางมาร่วมรับฟังโอกาสการลงทุน ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและธุรกิจ แผนยุทธศาสตร์ประเทศ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานขับเคลื่อนการเติบโต
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “Thailand Focus 2018” ว่าเป็นโอกาสอันดีที่ภาครัฐและเอกชนได้ร่วมนำเสนอพัฒนาการของประเทศไทยแก่ผู้ลงทุนทั่วโลก รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งสะท้อนจากดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและการขยายตัวของ GDP อย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยภาครัฐเน้นการทำงานเชิงรุกทั้งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตสู่การเน้นมูลค่าและนวัตกรรม
รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลตามแนวทางประเทศไทย 4.0 พร้อมขับเคลื่อนไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาค ที่เชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMVT และอาเซียน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ CLMVT มีการกำหนดแผนแม่บทเพื่อการพัฒนาร่วมกัน (ACMECS Master Plan) โดยประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและแสดงความสนใจในการเข้ามาเชื่อมโยงด้วยเช่นกัน และในส่วนของตลาดทุนไทยนั้นจะส่งเสริมให้เป็นตลาดทุนแห่งภูมิภาค
ขณะที่ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า การจัดงานครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “The Future is Now” โดยงานประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ 161 รายร่วมงาน โดยในจำนวนนี้ มีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศใหม่ ๆ อาทิ กลุ่มสแกนดิเนเวีย และเอเชียตะวันออก เพิ่มเติมจากตลาดหลักคือยุโรปและอเมริกาที่ลงทุนในตลาดทุนไทยอยู่เดิม และมาร่วมงานเป็นประจำทุกครั้ง สะท้อนถึงการที่ไทยอยู่ในความสนใจลงทุน โดยผู้ลงทุนสถาบันที่เข้าร่วมงานมีมูลค่าสินทรัพย์รวม (AUM) 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีการประชุมในรูปแบบ one-on-one กับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 115 บริษัท รวมทั้งสิ้น 2,248 ครั้ง
“Thailand Focus 2018” ได้เน้นย้ำถึงพื้นฐาน บริษัทจดทะเบียนไทยที่แข็งแกร่งน่าลงทุน มีการเติบโตและให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยผลการดำเนินงาน บริษัทจดทะเบียน ครึ่งปีแรก กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 7.61% ขณะที่ยอดขายเพิ่ม 9.01% ในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงบริษัทจดทะเบียน ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดพาณิชย์ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ สอดคล้องการขยายตัวของ GDP ที่ 4.8% ในครึ่งปีแรก เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว 3.2% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจาก 0.9% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เชื่อมั่นว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการลงทุนภาคเอกชน ที่สอดรับการลงทุนของภาครัฐ การบริโภคในประเทศ และการส่งออก
ผู้ลงทุนสถาบันยังได้รับฟังข้อมูลโดยตรงจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีความคืบหน้าและเป็นรูปธรรม และในระยะใกล้ จะเห็นว่าตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการที่จะขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ที่เป็นโครงการเชิงกลยุทธ์ของภาครัฐที่จะมีการลงทุนถึงกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย สร้างแรงส่งต่อเนื่องจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด และโครงการอื่นๆ ในระยะผ่านมา และยังเอื้อให้เกิดการเชื่อมโยงกับภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนในระยะยาวจากโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น
งาน Thailand Focus เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่เชื่อมโยงโอกาสการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันจากทั่วโลก พร้อมขยายฐานผู้ลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ข่าวเด่น