หลังจากใช้งบลงทุนสูงมากกว่า 20,000 ล้านบาท ลงทุนก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลภูเก็ต บนพื้นที่ 100 ไร่ มาตั้งแต่ช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ขณะนี้โครงการเซ็นทรัลภูเก็ตในส่วนของพื้นที่ศูนย์การค้าพร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ก.ย.2561 นี้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะมุ่งเน้นทำการตลาดเป็นพิเศษ คือ นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าในอีก 2-3 ปีนับจากนี้จังหวัดภูเก็ตจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนจากปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 10 ล้านคน
จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้ เซ็นทรัล ภูเก็ต ออกมาประกาศแผนเชิงรุก เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ เซ็นทรัล ภูเก็ต ต้องหาบริการเด็ดๆ มาเป็นแม่เหล็กในการดึงความสนใจนักท่องเที่ยวขาช้อป
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักที่ เซ็นทรัล ภูเก็ต จะมุ่งเข้าไปทำการตลาดมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่ม Rich Asian Millennials (ริช เอเชี่ยน มิลเลนเนียล) นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชีย เช่น จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงค์โปร์ และมาเลเซีย เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีแนวโน้มมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย
ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่จะเข้าไปทำการตลาด คือ กลุ่ม European High Spenders นักเดินทางชาวยุโรป ที่ใช้จ่ายสูง เช่น รัสเซีย เยอรมัน และ อังกฤษ ซึ่งเน้นการพักผ่อนในระยะยาว (Long Stay) ชื่นชอบในสินค้าไทย ของที่ระลึกของฝาก และเรื่องราวที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย ความเป็นโลคอล และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่ม Bluxury (Business + Luxury) นักธุรกิจที่เดินทางไปในต่างประเทศเพื่อการประชุม สัมมนา หรือ Incentive Trip กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง พักผ่อนแบบพรีเมี่ยม
น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารโครงการเซ็นทรัล ภูเก็ต กล่าวว่า กลยุทธ์ที่บริษัทจะนำมาใช้เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามายลโฉมและช้อปปิ้งในเซ็นทรัล ภูเก็ต คือ ‘World Elite Tourism’ เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวถือเป็นผู้ชี้นำเทรนด์ท่องเที่ยวของโลกในปัจจุบัน ดังนั้น บริษัทจึงจะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ (Quality Tourists) ด้วยการใช้งบ 3,000 ล้านบาท ทำการตลาดผ่าน 3 กลยุทธ์ หลัก
กลยุทธ์แรกที่จะนำมาใช้ คือ การสร้าง Super Magnet นั้น เซ็นทรัล ภูเก็ต จะเป็นจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์เมืองชายทะเลระดับโลกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชีย (The Magnitude of Luxury & Leisure Resort Shopping Destination ) ที่รวบรวมทุกจุดแข็งที่จะสร้างความแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่นๆ ในเมืองชายทะเลทั่วโลก ซึ่งจะมีจุดเด่นเพียงบางอย่าง แต่ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต จะมีครบทุกแม่เหล็กดึงดูดไว้ในโครงการเดียว ทั้งโครงการศูนย์การค้า ลักชูรี่แบรนด์ เพื่อตอบรับกำลังซื้อลูกค้าระดับบนเทียบเท่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี รวมถึงแอทแทรคชั่นหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นจิ๊กซอว์ที่จะช่วยเติมเต็มให้ภูเก็ตเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่ครบและสมบูรณ์ ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์การเดินทาง เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ที่มีเซนโตซา, มารีน่า เบย์ และ ธีมปาร์คต่างๆ
ส่วนกลยุทธ์ที่ 2 ที่นำมาใช้ คือ การสร้าง World Playlist งานอีเวนต์ยิ่งใหญ่ระดับโลก ด้วยการสร้างแลนด์มาร์คของประเทศผ่านการจัดอีเวนต์ในระดับนานาชาติ เช่น การจัดงาน Grand Opening ยิ่งใหญ่ระดับโลก การจัดเทศกาลดนตรีนานาชาติภูเก็ต (Phuket International Music Festival) และ การจัดงานเคาท์ดาวน์ระดับโลกประจำภูเก็ต (Phuket International Countdown 2019) ซึ่งกิจกรรมที่เลือกนำมาจัดดังกล่าวจะทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ต เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ตเทียบชั้นย่านราชประสงค์
นอกจากนี้ เซ็นทรัล ภูเก็ต ยังมีแผนที่จะรังสรรค์เมนูอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาทานได้เฉพาะที่เซ็นทรัล ภูเก็ตเท่านั้น หรือ Phuket Menu (Exclusive Menu Only At Central Phuket) โดยทางศูนย์ฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรร้านอาหารส่งเสริมชื่อเสียงของอาหารภูเก็ตมาสร้างสรรค์เมนูดังกล่าว
กลยุทธ์สุดท้ายที่จะนำมาใช้ คือ การผลักดันภูเก็ตเป็น WORLD-CLASS MICE CITY ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับจังหวัดภูเก็ต ให้เป็น “The World’s #1 Preferable Choice for MICE Tourism” โดยการสร้างศูนย์การประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติขนาดใหญ่กว่า 6,000 ตร.ม. และโรงแรมมาตรฐานสากล เพื่อหนุนตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ให้ภูเก็ตเป็นเมืองไมซ์ระดับโลกที่คนทั่วโลกชื่นชอบที่สุดอย่างแท้จริง โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการและขออนุญาตการก่อสร้างบนที่ดินที่เหลืออีกประมาณ 10 ไร่
น.ส.วัลยา กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่า เซ็นทรัล ภูเก็ต จะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างแท้จริง และจะช่วยเพิ่มปริมาณของนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพให้ใช้จ่ายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้บริษัทมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตขยายตัวได้อีกมาก ด้วยการมีเม็ดเงินสะพัดภายในจังหวัดไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปีผ่านการใช้จ่ายภายในศูนย์การค้า คอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรม แอทแทร็คชั่น และระบบโลจิสติกส์ ซึ่งจากจำนวนศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการเพิ่มขึ้น บริษัทมั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15%
ข่าวเด่น