ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เผย สิ้นเดือนสิงหา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่ม 1.2% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม โดยปิดที่ระดับ 1,721.58 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดส่วนใหญ่ในอาเซียน ขณะที่วอลุ่มเพิ่มขึ้น 15.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 50,132 ล้าน ระบุ “สถาบัน-โบรกเกอร์” ส่วน“ผู้ลงทุนต่างชาติ” ขายสุทธิ แต่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2ปีนี้

ในเดือนสิงหาคม 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในอาเซียน โดยผลกระทบจากความเปราะบางของเศรษฐกิจตุรกีอยู่ในวงจำกัด ซึ่งมีผลต่อการลงทุนน้อยกว่าเหตุการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางการค้าในช่วงก่อนหน้านี้มาก

นอกจากนี้อัตราการเติบโตของ GDP ของไทยในไตรมาส 2 ปี 2561 ที่ประกาศออกมาในเดือนสิงหาคมสะท้อนให้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจนของเศรษฐกิจไทย โดยทุกปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างดี และเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในระยะต่อไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยในเดือนสิงหาคม 2561 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 10,684 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ต่ำกว่ามูลค่าขายสุทธิเฉลี่ยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา

ในขณะที่ตลาดตราสารหนี้ของไทยที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทไทยที่มีเสถียรภาพมากกว่าเงินของประเทศเกิดใหม่สกุลอื่น

ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 ปิดที่ 1,721.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.2% จากสิ้นเดือนก่อน ในขณะที่ปรับตัวลดลง 1.8% จากสิ้นปี 2560 อย่างไรก็ตาม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index

ขณะที่ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ระดับ 15.96 เท่า ส่วน Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.98 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.14 เท่า และ 14.97 เท่า ตามลำดับ

ด้านอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ระดับ 3.05% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.81%

นายภากร กล่าวเสริมว่า ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ 17.7 ล้านล้านบาท ลดลง 1.3% จากสิ้นปี 2560 ตามทิศทางดัชนี

สำหรับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ในระดับสูงที่ 50,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นายภากร กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคม 2561 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 333,240 สัญญา ซึ่งลดลง 11.1% จากเดือนก่อน มาจากการซื้อขาย SET50 Index Futures และ Single Stock Futures ที่ลดลงเป็นหลัก