บลจ.ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกระส่ำ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จากหลากปัจจัย ย้ำนักลงทุนกระจายสินทรัพย์ จัดพอร์ตรับตลาดผันผวน- ลดความเสี่ยง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษท้าฤดูฝน เพิ่มโอกาสลงทุนให้ลูกค้า
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกปรับตัวขึ้นลงอย่างผันผวน โดยเฉพาะตลาดหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่หรือ Emerging Market (EM) ที่ปรับตัวลงค่อนข้างมาก แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของ Emerging Market น่าจะเติบโตดีกว่ากลุ่มประเทศ Developed Market (DM) แต่ด้วยปัจจัยลบต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่น่าจะยืดเยื้อไปจนกว่าการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พ.ย. เพราะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะใช้ประเด็นนี้ในการเรียกคะแนนความนิยม จึงทำให้ช่วงที่ผ่านมานักลงทุนมีความกังวลต่อการลงทุนในตลาดนี้ค่อนข้างมาก
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าต่อเนื่อง และความกังวลเรื่องวิกฤตค่าเงินของบางประเทศใน Emerging Market ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินในตลาด Emerging Market อ่อนค่าแรง จึงเห็นกระแสเงินไหลออกจากตลาด Emerging Market และเกิดความผันผวนมากขึ้นทั้งในตลาดตราสารหนี้ หุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ บลจ.ทิสโก้ยังแนะนำให้กระจายการลงทุนเพราะช่วงที่ตลาดผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูงนั้น การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวอาจไม่มีประสิทธิภาพและมีความเสี่ยงสูงเกินไป
“ปัจจุบันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในภาวะ Late Bull Cycle และยังบอกไม่ได้ว่าจะจบรอบเมื่อไร ดังนั้น การลงทุนช่วงนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน หากต้องการลงทุนในหุ้นก็ต้องคัดเลือกไปถึงพื้นฐานและมูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทจดทะเบียน
แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก ควรจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะการลงทุนที่มีความผันผวนสูงขึ้น ทางเลือกหนึ่งคือการกระจายการลงทุนหลายสินทรัพย์ (Multi Asset Portfolio) ทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ต้องเข้าใจถึงรายละเอียดว่า
สินทรัพย์ที่ลงทุนนั้นเป็นอย่างไร เช่น เป็นหุ้นในภูมิภาคไหน ตราสารหนี้ระยะสั้นหรือยาว มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ และความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ที่ลงทุนจะมีผลเชิงบวกหรือลบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ” นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการให้มืออาชีพจัดพอร์ตการลงทุนให้ บลจ.ทิสโก้มีกองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TINC) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) ซึ่งเป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน เงินฝาก รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ
กองทุนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตรับความผันผวน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จัดโปรโมชั่นพิเศษท้าฤดูฝน เพียงลูกค้ามียอดเงินลงทุนสะสมในกองทุนทิสโก้ อินคัม พลัส ตั้งแต่ 10,000 - 5,000,000 บาท ระหว่างวันที่ 1- 17 ก.ย. จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสัน (TISCOSTF) มูลค่า 0.2% ของยอดเงินลงทุน สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
และลูกค้าสามารถซื้อหน่วยลงทุน TINC ด้วยบัตรเครดิตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ในนามบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ได้ที่สาขาของธนาคารทิสโก้ที่กำหนดตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 14 ก.ย. 2561 พิเศษสุดสำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุนครั้งแรกกับบลจ.ทิสโก้ และแสดงบัตรเครดิตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในนามบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ของตนเองที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา รับบัตรกำนัลสตาร์บัคส์ มูลค่า 200 บาท (1ท่านต่อ 1 สิทธิ์) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 17 ก.ย. 2561 เท่านั้น
กองทุนเปิด TINC อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
ข่าวเด่น