“ซีอีโอ บจ.” คาดเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลัง เติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี และเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3-4% ระบุปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และการท่องเที่ยว ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศ และเสถียรภาพด้านการเมืองภายในประเทศจะเป็นทั้งปัจจัยสนับสนุน และปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจ
นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO) ส่วนใหญ่คาดเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้น โดย CEO คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโตอยู่ในช่วง 3-4%
นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 CEO ยังคาดว่านโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว กำลังซื้อภายในประเทศ และเสถียรภาพของการเมืองในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย CEO ได้แก่ กำลังซื้อภายในประเทศ เสถียรภาพการเมืองในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แตกต่างจากการสำรวจครั้งก่อนที่มองว่าปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย คือ ความผันผวนของเงินบาท เสถียรภาพของการเมืองในประเทศ และต้นทุนแรงงาน
นอกจากนี้ 56% ของ CEO คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมที่ตนดำเนินการอยู่จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี 2561 แต่สัดส่วนลดลงจาก 64% จากการสำรวจครั้งก่อน
ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจ CEO ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะปรับตัวดีขึ้น โดย 71% ของ CEO คาดรายได้เติบโตมากกว่า 3% และ 46% ของ CEO คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 6%
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ พบว่า CEO ส่วนใหญ่คาดว่าต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันโลก เช่นเดียวกับราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ CEO ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าระดับการจ้างงานและสภาพคล่องจะอยู่ในระดับเดิม
ขณะที่แนวโน้มการลงทุน CEO ส่วนใหญ่วางแผนจะขยายการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 พบว่า 50% ของ CEO วางแผนขยายการลงทุนทั้งในต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งมีประเทศเป้าหมายการลงทุน คือ ประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม โดยแหล่งทุนหลัก 3 อันดับแรก คือ กำไรสะสมของกิจการ สินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ และการออกหุ้นกู้ภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้อความที่ปรากฎในรานงานฉบับนี้ เป็นความคิดส่วนตัวของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัดอยู่ รายงานฉบับนี้จัดทำบนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแนวคิดแก่ผู้อ่านเท่านั้น
ข่าวเด่น