ข่าวประชาสัมพันธ์
กลุ่มพ่อค้าโวย เดือนร้อนหนัก กทม.บุกปิดตลาดนัดเจเจกรีน นำแบริเออ ปิดกั้นทางเข้าออก


เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ของวันที่ 13 กันยายน 2561 เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร กว่า 40 คน นำโดยนายศุภกร วีรสุวิภากร ผู้อำนวยการ กองอำนวยการตลาดนัดกทม. นายภาณุรัตน์  มีเพียร  ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร    นายณัฐนันท์  กัลยาศิริ  ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พร้อมรถบรรทุกของสำนักโยธา จำนวน 4 คัน ขนแบริเออจำนวนมาก มาทำการปิดกันทางเข้าออกโครงการจตุจักร กรีน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ลานจอดรถของมูลนิธิสวนสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พร้อมทั้งติดป้ายประกาศกรุงเทพมหานครขนาดใหญ่ มีข้อความว่า “ด้วยสัญญาเช่าพื้นที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ระหว่างมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กับกรุงเทพมหานคร ฉบับลงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ครบกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ 2561 และกรุงเทพมหานครมีหน้าที่ส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ในสภาพที่เรียบร้อย และกรุงเทพฯได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ขนย้ายทรัพย์สินออกไปให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 กันยายน 2561 นั้น เพื่อให้กรุงเทพฯส่งมอบคืนพื้นที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ได้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาตามสัญญาและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรุงเทพมหานครจึงมีความจำเป็นที่จะปิดกั้นพื้นที่และเข้าทำความสะอาดพื้นที่ตลอดจนปรับปรุงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2561 เป็นต้นไป"

 

 

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าไปยังตัวแทนผู้บริหารโครงการ จตุจักร กรีน ได้รับคำตอบว่า สัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างกรุงเทพมหานครกับ บริษัท วี มัลติมีเดีย จำกัด ได้สิ้นสุดลงวันที่ 12 สิงหาคม 2561 พร้อมกับสัญญาเช่าระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ มูลนิธิสวนสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ ดังนั้น กรุงเทพมหานคร จึงไม่มีสิทธิครอบครองพื้นที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ส่วนบริษัท วี มัลติมีเดีย จำกัด ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 เรื่อยมา ดังนั้น บริษัท วี มัลติมีเดีย จำกัด จึงเป็นผู้มีสิทธิครองครองพื้นที่ดังกล่าวดีกว่ากรุงเทพมหานคร ประกอบกับ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นฟ้องขับไล่บริษัท วี มัลติมีเดีย จำกัด ต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.4567/2561 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล และยังมีคดีพิพาทกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับบริษัทฯ กันถึง 5 คดี ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อกรุงเทพมหานครได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว กรุงเทพมหานคร จึงไม่มีสิทธิที่จะนำเจ้าหน้าที่และแบริเออ มาทำการปิดกั้นทางเข้าออกโครงการฯ เว้นแต่จะมีคำสั่งศาลให้คุ้มครองชั่วคราว กรุงเทพมหานครจึงจะสามารถทำได้ ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจะมาทำการปิดกั้นนั้น ตัวแทนของโครงการได้แจ้งเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครแล้วว่าโครงการฯไม่อนุญาตให้กรุงเทพมหานครทำการนำแบริเออมาปิดกันทางเข้าออกโครงการ หากฝ่าฝืนบริษัทฯ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครก็ไม่รับฟังและทำการปิดกั้นต่อไป โครงการเกรงว่าจะเกิดการปะทะหรือกระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่จึงได้แต่ยื่นดูอยู่บริเวณรอบนอก

 

 

ฉะนั้น การที่กรุงเทพมหานครได้นำเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 40 นาย และนำแบริเออมาปิดกั้นทางเข้าออก จึงเป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ อาศัยความเป็นหน่วยงานของรัฐกระทำการโดยปราศจากอำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร มาตั้งโต๊ะตรวจคนเข้าออกพื้นที่ภายในโครงการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางบริษัทฯ อีกด้วย และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครยังแจ้งให้ผู้ค้าในตลาดนัดเจเจกรีน ออกจากพื้นที่ภายในเวลา 18.00 น. จึงทำให้ผู้ค้าไม่สามารถค้าขายได้ในวันนี้และได้รับความเดือนร้อนอย่างหนักอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามตัวแทนผู้บริหารโครงการ จตุจักร กรีน ต่อไปอีกว่า แล้วถัดจากนี้ จะดำเนินการกับกรุงเทพมหานครอย่างไร ได้รับคำตอบว่า โครงการได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและทยอยเก็บข้าวของทรัพย์สินออกจากโครงการ และจะสามารถคืนพื้นที่ให้กับมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ในสภาพเรียบร้อยได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2561 ส่วนเรื่องการเข้ามาปิดกั้น บุกรุก ของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเช้าของวันนี้ โครงการได้มอบหมายให้ทนายความเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบานบางซื่อ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องในข้อหาบุกรุก โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 แล้ว และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ก.ย. 2561 เวลา : 16:17:22
07-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 7, 2025, 6:38 pm