รัฐคืน VAT จากการซื้อสินค้าผ่านบัตรคนจนเพิ่มอำนาจซื้อ-หนุนออม การดูแลผู้มีรายได้น้อยเป็นนโยบายที่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ซึ่งพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)ให้กับผู้มีรายได้น้อยในการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อสินค้า โดยแยกเป็น 3 ส่วน คือจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บไปทั้งหมด 7% นั้น จะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ถือบัตรต้องเสียจริง 1% โดย 5% จะคืนให้กับผู้ถือบัตร โดยจ่ายคืนผ่าน e-money เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าและร้านที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล
ส่วนอีก 1% จะนำเข้าสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติของบุคคลดังกล่าว หรือนำเข้าบัญชีไว้ แต่ทั้งนี้วงเงินคืน VAT จะต้องไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน ซึ่งโครงการคืนภาษี VAT ดังกล่าว จะมีระยะเวลาเพียง 6 เดือน คือเริ่มตั้งแต่1 พ.ย.61 - 30 เม.ย.62
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า มาตรการนี้ จะช่วยทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีการใช้จ่ายคล่องตัวมากขึ้น รวมทั้ง กระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และยังส่งเสริมให้ร้านค้าจดทะเบียนVAT มากขึ้นด้วย
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการในการจ่ายชดเชยต้องติดตั้งเครื่อง EDC และเครื่องคิดเลขคำนวณเงินจากการซื้อสินค้าต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากรและกรมบัญชีกลาง ดังนั้น หากต้องการให้จ่ายชดเชยเพิ่มมากขึ้นชาวบ้านต้องเติมเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น และเมื่อชาวบ้านใช้บัตรรูดซื้อสินค้ารายการภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกส่งไปยังกรมสรรพากร จากนั้นกรมบัญชีกลางจะส่งเงินชดเชยคืนเข้ามาในบัตรวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ทั้งนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลางยอมรับว่า ช่วงแรกเน้นเฉพาะการใช้จ่ายกับร้านธงฟ้าประชารัฐติดตั้งเครื่อง EDC เท่านั้น จากนั้นค่อยขยายไปยังร้านค้าอื่นเพิ่ม ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งเสริมให้ร้านธงฟ้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้จำนวนมากขึ้น ต่อไปการใช้เงินแบบไร้เงินสดจะเพิ่มขึ้น โดยหวังเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้มีรายได้น้อย กำหนดเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 - เมษายน 2562 เพื่อทดลองนำร่องเป็นเวลา 6 เดือน การใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากช่วยเหลือ 5,000 ล้านบาท จึงมีความเพียงพอในการช่วยเหลือ
ข่าวเด่น