แม้โดยภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย ยังคงถูกกดดันด้วยเรื่องใหญ่ อาทิ สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น และจะกระทบการค้าโลก เศรษฐกิจโลก แต่ปัจจัยภายในประเทศเอง ยังพอมีประเด็นให้ trading โดยเลือกหุ้นรายตัวตามกระแสข่าวได้
อย่างวันนี้ (19ก.ย.) หุ้นกลุ่มค้าปลีกน่าสนใจ เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) มีมติเห็นชอบให้คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรสวัสดิการคนจนนั่นเอง มูลค่ารวมราว 1.7 พันล้านบาท ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าเอกชนที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้
โดยจะได้รับเงินคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่เกินเดือนละ 500 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก 5% ผู้จ่ายจะได้คืนเงินภาษีเข้ากระเป๋ าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ของผู้ถือบัตร และส่วนที่สอง 1% จะโอนเข้าไปสะสมในกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยมีระยะเวลา 6 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2561 - 30 เม.ย. 2562 ส่วนอีก 1% ยังต้องเสียภาษี VAT ตามปกติ
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASP มองว่า แม้จะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง แต่จากการประเมินพบว่ามูลค่าค้าปลีก-ค้าส่ง ในไทยปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท เทียบกับผลบวกจากโครงการดังกล่าว คิดเป็นราว 0.06% จึงไม่มีนัยสำคัญ จึงคงน้ำหนักลงทุนกลุ่มค้าปลีก “เท่าตลาด” ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่ปรับขึ้นมาจนใกล้เต็มมูลค่าพื้นฐานปี 2561 แล้ว
กลุ่มค้าปลีก ชื่นชอบหุ้น BJC ราคาเหมาะสม 69 บาท ยังเหลือ upside ให้ลงทุนได้ และแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง ยังเติบโตโดดเด่น คาดกำไรทั้งปีนี้จะโตถึง 38% yoy
นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้น CPALL ราคาเหมาะสม 79 บาท ฝ่ายวิจัยฯ อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและปรับคำแนะนำจาก switch เป็นซื้อ แม้ต้นทุนขยายสาขา MAKRO ไปต่างประเทศ จะยังกดดันอีกหลายไตรมาส แต่เชื่อว่าผลประกอบการ จะถึงจุดต่ำสุดช่วง 1-2 ไตรมาสนี้ และจะค่อยๆดีขึ้น บวกกับราคาหุ้นปรับตัวลง จนมี upside ที่น่าสนใจ
ข่าวเด่น