เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
รายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนสิงหาคม ปี 2561


"เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนสิงหาคม 2561 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง นำโดย ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนในหลายภูมิภาค รวมถึงการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี"

 

 

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนสิงหาคม ปี 2561  "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนสิงหาคม 2561 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง นำโดย ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนในหลายภูมิภาค รวมถึงการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด

สรุปได้ดังนี้

ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

รวมถึงภาคอุตสาหกรรมช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน

จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 28.5

ต่อปี สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน

สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ

37.6 และ 34.9 ต่อปี ตามลำดับ จากขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด

โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นต้น

ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัวต่อเนื่อง

สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในเดือนสิงหาคม 2561

ขยายตัวร้อยละ 46.9 และ 19.7 ต่อปี ตามลำดับ

สอดคล้องกับเม็ดเงินลงทุนที่เริ่มประกอบกิจการ อยู่ที่ 3,116 ล้านบาท

หรือขยายตัวร้อยละ 106.3 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี และปราจีนบุรี

เป็นต้น สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี

ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนกรกฎาคม

2561 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 2.3 และ 8.7 ต่อปี ตามลำดับ

สอดคล้องกับผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่เหนือระดับ

100 เป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 109.0

ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์

อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมเหล็ก เป็นต้น

ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนสิงหาคม 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกรกฎาคม 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคกลาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

รวมถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน

จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 11.3

ต่อปี จากการขยายตัวในจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท และพระนครศรีอยุธยา

เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน

สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 30.5

และ 10.3 ต่อปี ตามลำดับ

สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร

สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 18.1 และ 8.8

ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสระบุรี

และสิงห์บุรี เป็นต้น นอกจากนี้เม็ดเงินลงทุนที่เริ่มประกอบกิจการ

อยู่ที่ 1,262 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 235.3 ต่อปี

จากการลงทุนในจังหวัดสระบุรี และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี

โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน

ในเดือนกรกฎาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.7 และ 9.4 ต่อปี ตามลำดับ

สอดคล้องกับผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคกลางที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่

98.0 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมพลาสติก

เป็นต้น ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคมเบื้องต้น 2561 อยู่ที่ร้อยละ

1.3 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.1

ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคเหนือ เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

รวมถึงภาคการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน

จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ

8.2 ต่อปี จากการขยายตัวในจังหวัดเชียงใหม่ ตาก แพร่ และแม่ฮ่องสอน

เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน

สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 6.5

และ 8.8 ต่อปี ตามลำดับ

สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร

สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 7.2 และ 12.5

ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้เม็ดเงินลงทุนที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ

อยู่ที่ 1,377 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 40.9 ต่อปี

จากการลงทุนในจังหวัดอุทัยธานี พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เป็นต้น

สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี

ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในกรกฎาคม 2561

ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.5 และ 7.0 ต่อปี ตามลำดับ

ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนสิงหาคม 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน

รวมถึงภาคเกษตรและภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน

จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ

3.6 ต่อปี สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง

จากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 19.4 ต่อปี

จากการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา

และเลย เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร

สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 9.0 และ 9.1

ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับเงินทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ

ในเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ 1,463.6 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 78.1 ต่อปี

จากการลงทุนในจังหวัดนครราชสีมา จากการลงทุนโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า

เป็นต้น สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี

ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนกรกฎาคม

2561 ขยายตัวร้อยละ 4.1 และ 9.8 ต่อปี ตามลำดับ

ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคมเบื้องต้น

ยังคงอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคภายในภูมิภาคที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี

และอัตราการว่างงาน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.8

ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคสินค้าคงทน

และการลงทุนภาคเอกชน เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์

โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน

สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ร้อยละ

8.6 และ 2.9 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในกรุงเทพมหานคร

ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561

หดตัวลงเล็กน้อยที่ร้อยละ -1.6 ต่อปี

ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร

สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 32.0 และ

19.3 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร

เป็นต้น   สอดคล้องกับเงินทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการในสิงหาคม

2561 อยู่ที่ 7,452 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดสมุทรสาคร

และสมุทรปราการ เป็นสำคัญ  สำหรับด้านอุปทาน

ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดีแม้ว่าจะชะลอลงจากเดือนก่อน

สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนกรกฎาคม ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ

7.5  ต่อปี ตามการขยายตัวทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนสิงหาคมเบื้องต้น 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2561

อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภาคเอกชน

รวมถึงการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม

ราคาคงที่ใน เดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวเร่งร้อยละ 6.9 ต่อปี

ตามการเพิ่มขึ้นในจังหวัดเพชรบุรี  และกาญจนบุรี

เป็นต้นในขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนชะลอตัว

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร

สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 2.9 ต่อปี ตามลำดับ

จากการขยายตัวในจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสงคราม เป็นต้น

สอดคล้องกับเงินทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการในสิงหาคม 2561

อยู่ที่ 530 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี เป็นสำคัญ

สำหรับด้านอุปทาน

โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน

ในเดือนกรกฎาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.6 และ 7.9 ต่อปี ตามลำดับ

สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป

ในเดือนสิงหาคม 2561

อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคและการผลิตภายในภูมิภาคที่ร้อยละ 1.8

ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.7

ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค

ภาคใต้ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

รวมถึงภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน

จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 7.1

ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในจังหวัดภูเก็ต พังงา และสตูล เป็นต้น

สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง

สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่

ขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี

สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น

จากเงินทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการในสิงหาคม 2561 อยู่ที่

1,524 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.8 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดนราธิวาส

ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น สำหรับด้านอุปทาน

ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดีแม้จะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากเดือนก่อน

ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนกรกฎาคม

2561 ขยายตัวร้อยละ 3.4 และ 10.2 ต่อปี ตามลำดับ

ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนสิงหาคม 2561

อยู่ในระดับเอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี

และอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.4

ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ก.ย. 2561 เวลา : 15:02:12
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 12:54 am