“ทีพีบีไอ” ขยายฐานตลาดสู่บรรจุภัณฑ์กระดาษรับเทรนด์บรรจุภัณฑ์โลกให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม เซ็นสัญญาซื้อกิจการ 2 บริษัท “IPM-ITPในอังกฤษ และ ITPA ในออสเตรเลีย” หนุนทำธุรกิจหลากหลาย ส่งผลดีต่อการขยายฐานลูกค้าใหม่และตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมได้ดียิ่งขึ้น ระบุการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้รับรู้รายได้ทันทีภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี ดันภาพรวมการดำเนินงานปีนี้เติบโตตามแผน
บริษัท ทีพีบีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็น บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ถือหุ้น 100% ได้เซ็นสัญญาเข้าซื้อกิจการหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท Intelipac Paper Manufacturing Ltd (IPM) และ บริษัท Intelipac Limited (ITP) ประเทศอังกฤษ และหุ้นสามัญ 25% ของ บริษัท Intelipac Australia PTY Limited (“ITPA”) ประเทศออสเตรเลีย (ปัจจุบัน ITP ถือหุ้นใน ITPA 75%)
ทั้งนี้ IPM เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เบเกอรี่ และห้างสรรพสินค้าในประเทศอังกฤษ
ส่วน ITP เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจซื้อมาขายไปในผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงประเภทใช้ซ้ำ (Reusable) ชนิดต่าง ๆ รวมถึงถุงบรรจุผักผลไม้และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
ขณะที่บริษัท Intelipac Australia PTY Limited (ITPA) ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ประกอบธุรกิจซื้อมาขายไปในผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงประเภทใช้ซ้ำ (Reusable) ถุงใส่ผักผลไม้ และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารชนิดต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลีย
นายสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการของบริษัทลูกในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของ TPBI ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ระดับโลก จากการขยายไปสู่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้ฐานการผลิตในประเทศอังกฤษ และยังได้ตลาดพร้อมช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทถุงใช้ซ้ำ (Reusable) ในอังกฤษ ออสเตรเลีย และประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของ TPBI ในการผลิตถุง Reusable และใช้ช่องทางเหล่านี้เติมเต็มความต้องการของตลาด พร้อมยังเพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ Reusable ที่ TPBI จะสามารถผลิตได้ โดยใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้วเป็นวัตถุดิบ สอดคล้องกับเทรนด์บรรจุภัณฑ์โลกเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีแผนนำผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษมาใช้ศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ TPBI ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย
“TPBI ไม่เคยหยุดนิ่งในการแสวงหาและมองโอกาสการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอกย้ำยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ TPBI ที่มีเป้าหมายสู่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่งพัฒนาธุรกิจเดิมให้มีความแข็งแกร่งและการขยายธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการควบรวมกิจการ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ TPBI ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ระดับโลกที่มีวัตถุดิบหลากหลาย และมีช่องทางการขยายตลาดใหม่ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทถุง Reusable โดยเรามีแผนจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในทวีปยุโรปและออสเตรเลียเพิ่มเติม” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TPBI กล่าวเสริมว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ TPBI จะได้โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษในประเทศอังกฤษที่มีกำลังการผลิต 2 ล้านใบต่อวัน รวมถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และเข้าใจถึงสภาวะแวดล้อมการการตลาดและความต้องการของตลาดบรรจุภัณฑ์ในภาคพื้นยุโรปและออสเตรเลีย จึงเป็นโอกาสที่ดีของ TPBI ในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ ที่เป็นองค์กรระดับโลกในภาคพื้นยุโรปและออสเตรเลีย ซึ่งเป็นลูกค้าเดิมของ ITP IPM และ ITPA
“บริษัทจึงมั่นใจว่า การเข้าควบรวมกิจการในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับเงินลงทุนเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ประมาณ 600 ล้านบาท (ประมาณ 13 ล้านปอนด์) ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการระดมทุนขายหุ้น IPO เมื่อปี 2559 นำมาใช้ขยายธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งเชิงธุรกิจให้แก่ TPBI เบื้องต้นประเมินว่าจะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี หลังเข้าทำรายการแล้วเสร็จ โดยคาดจะรับรู้รายได้ไตรมาส 4 ปีนี้ และในอนาคต บริษัทยังมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษเป็นเท่าตัวเพื่อรองรับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น