มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศยุทธศาสตร์เกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และการเชื่อมโยงการสื่อสารภายในยานยนต์ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสุข ความสนุกสนาน และความเร้าใจในการขับขี่ เพื่อให้ผู้ขับขี่รวมทั้งผู้โดยสารเกิดความรู้สึกสงบสุขด้านจิตใจ ผ่านทางอารมณ์และความรู้สึกที่เพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ในทุกๆ วันของการขับขี่ พร้อมนำเสนอเรื่องราวเพื่อเพิ่มความสนุกผ่านการเป็นเจ้าของรถยนต์ ยุทธศาสตร์นี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานและวิสัยทัศน์ระยะยาวของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยี “การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ ซูม-ซูม 2573” โดยกำหนดเป็นพันธกิจสำคัญของบริษัทฯ เพื่อปกป้องรักษาความสวยงามของโลกใบนี้ให้คงอยู่ รวมทั้งยกระดับสังคมและคุณภาพชีวิตของปัจเจกบุคคล และแสวงหาวิธีแก้ไขปัญหาในพื้นที่แหล่งที่ผู้คนอาศัยอยู่ในสังคม และโลกของเรา
แผนงานของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและการเชื่อมโยงด้านยานยนต์ด้านล่างนี้จะเพิ่มคุณสมบัติตามธรรมชาติของรถยนต์มากขึ้น
- เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า Electrification
มาสด้าตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มความสนุกในการขับขี่ โดยจัดการเรื่องขนาดของรถยนต์ เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าให้มีน้ำหนักเบา ในขณะเดียวกันได้เร่งพัฒนาปรับปรุงเครื่องยนต์สันดาปภายในให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ที่เป็นโมเดลใหม่ในอนาคตข้างหน้า บริษัทฯ จะทำการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยมีอัตราการผลิตพลังงานไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงจากแหล่งพลังงานที่สะอาด หรือจำกัดประเภทของรถยนต์เพื่อลดการปล่อยมลพิษสู่บรรยากาศ
- ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ “well-to-wheel” ในระดับค่าเฉลี่ยขององค์กร ให้ได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี พ.ศ. 2593 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2553 มาสด้ากำลังจะนำเอาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ มาใช้เพื่อผลิตรถยนต์ทุกรุ่นภายในปี พ.ศ. 2573
- ในปี พ.ศ. 2573 มาสด้าคาดว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ จะเพิ่มขึ้นเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ ของยานพาหนะที่ถูกผลิตขึ้นและยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จะมีประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์
- การพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในบริษัทฯ ด้วยการยกระดับข้อดีต่างๆ ของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และได้รับการแนะนำด้วยปรัชญาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า ด้วยการพัฒนาอันมีมนุษย์เป็นศูนย์กลางโดยเน้นในเรื่องของพฤติกรรมและความรู้สึก
- มาสด้าจะพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ 2 รูปแบบ โดยแบบแรกจะเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว และแบบที่สองจะเป็นในรูปแบบของแบตเตอรี่ทำงานควบคู่ไปกับเทคโนโลยีช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ (Range Extender) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยแหล่งกำเนิดพลังงานมาจากเครื่องยนต์โรตารีของมาสด้าที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และเงียบเป็นพิเศษ ระบบช่วยเพิ่มระยะทาง (Range Extender) ด้วยการเติมประจุไฟเข้าแบตเตอรี่อีกครั้งเมื่อมีความจำเป็นเพื่อที่จะเพิ่มระยะทางในการขับขี่ของรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ
- แนวคิดเบื้องหลังของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ (Range Extender) นำเอาคุณสมบัติข้อดีของเครื่องยนต์โรตารีที่มีขนาดเล็กแต่ให้พละกำลังแรง เพื่อนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายและเป็นไปได้สำหรับเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้ข้อได้เปรียบในเรื่องการออกแบบและการวางตำแหน่งของเครื่องยนต์
- การใช้ประโยชน์จากการนำมาใช้ทดแทนกันของเครื่องยนต์โรตารีและเชื้อเพลิงในรูปแบบแก๊ส เครื่องยนต์พลังงานโรตารีถูกออกแบบให้สามารถเผาไหม้ด้วยแก๊สปิโตรเลียมเหลว และสำรองแหล่งพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
- เทคโนโลยีการเชื่อมโยงการสื่อสาร Connectivity
- เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาการพัฒนาอันมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มาสด้ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมโยงการสื่อสารที่เสนอการยกระดับทางด้านประสบการณ์ในเรื่องความสนุกสนานในการดำเนินชีวิต การเชื่อมต่อผู้คนโดยการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกผ่านทางรถยนต์ ด้วยการนำเสนอคุณค่าใหม่ควบคู่ไปกับความสนุกสนานในการขับขี่ มาสด้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและยกระดับคุณภาพทางสังคม
- มาสด้าตั้งปณิธานเพื่อรับผิดชอบต่อปัญหาของสังคม อาทิ ความอ่อนแอเรื่องการสื่อสารระหว่างบุคคลที่เปลี่ยนไปในสังคมปัจจุบัน โดยการเชื่อมโยงผู้คนและสังคมผ่านทางการเชื่อมโลกของการสื่อสารด้วยเทคโนโลยีในรถยนต์
- การเชื่อมโยงด้วยการพัฒนาจากโมเดลพื้นฐาน และสะท้อนออกมาเป็นผลลัพธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต โดยการปรับปรุงคุณภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
- ยกระดับพันธมิตรกับ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ในการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีความเชื่อมโยงการสื่อสารในรถยนต์
“มีคนกล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในรอบศตวรรษ แต่สำหรับมาสด้าพวกเรามองเห็นว่าสิ่งนี้กลับเป็นโอกาสที่สำคัญเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมรถยนต์รูปแบบใหม่ขึ้นมา” มร. อาคิระ มารุโมโต คณะกรรมการ, ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “แนวทางใหม่และเทคโนโลยีใหม่ในการเชื่อมต่อ ความเป็นอิสระ การแบ่งปัน และการนำเสนอทางเลือกใหม่ของการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าเพื่อที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ให้เกิดความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่บนพื้นฐานของปรัชญาอันเป็นเอกลักษณ์ในการพัฒนาโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มาสด้าตั้งมั่นกับจิตวิญญาณของคำว่า “ไม่เคยหยุดที่จะท้าทาย” ต่อเนื่องจากการไล่ล่าความสนุกในทุกการขับขี่ และทำงานเพื่อที่จะสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับลูกค้าและสามารถแข่งขันได้กับหลากหลายแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้
โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางทางโซเชียลมีเดีย
เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial Facebook/YouTube/Instagram/LINE
ข่าวเด่น