แบงก์-นอนแบงก์
ธ.ก.ส. ร่วมมือ 8 แบงก์รัฐ ปตท-ไปรษณีย์ไทย ขยายบริการธุรกรรมทางการเงิน พร้อมสร้างศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ชุมชนในสถานีบริการน้ำมัน PTT


ธ.ก.ส.ร่วมมือภาคีเครือข่ายสถาบันการเงินของรัฐ ไปรษณีย์ไทย และปตท.ใช้พื้นทีสถานีบริการน้ำมัน เป็นศูนย์รวมให้บริการทางการเงินแบบ One Service แก่ประชาชนทั่วไป พร้อมสร้างช่องทางจำหน่ายและกระจายสินค้าชุมชนสู่ผู้บริโภค กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน
 
 
 
 
 
 
วันนี้ (4 ตุลาคม 2561) ณ ธนาคารอาคารสงเคราะห์สำนักงานใหญ่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการลงนามความร่วมมือระหว่างผู้บริหารบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน)(ปตท.)บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดและสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.)ในการใช้พื้นที่ปั๊ม ปตท.เป็นศูนย์รวมในการให้บริการธุรกรรมทางการเงินแบบ One Service เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสถาบันการเงินของรัฐได้ง่าย รวมถึงเป็นศูนย์กระจายสินค้าชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
 
 
 
 
 
 
 
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ธ.ก.ส.พร้อมนำผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรสถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs เกษตรและชุมชน มาจัดจำหน่าย ณ สถานีบริการน้ำมันปตท.รวมถึงใช้จุดดังกล่าวเป็นศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ซื้อขายผ่านช่องทางPlatform e-Marketโดยสินค้าที่นำไปจำหน่ายจะมีทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น รังนกพร้อมดื่มสำเร็จรูปจมูกข้าวกล้องงอกชนิดผงสำหรับชงดื่มแชมพูสระผมน้ำนมข้าวครีมอาบน้ำน้ำนมข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว A-rice และผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ จากชุมชนทั่วประเทศรวมถึงการพิจารณาเปิดร้านค้า A-Shop   หน่วยบริการหรือสาขา ธ.ก.ส.ในปั๊มน้ำมันตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการธุรกรรมทางการเงินแบบ  One  Service  แก่ประชาชน
 
 
 
 
 
ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่ดังกล่าว นอกจากเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าชุมชน ยังสามารถสร้างเป็นจุดทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายสินค้าชุมชนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและเทศกาลสำคัญ ๆ เช่น ปีใหม่ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว ได้เลือกซื้อสินค้าที่มีอัตลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น  และสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรงอันเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับชุมชน ทั้งการผลิตสินค้า การสร้างงาน สร้างรายได้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโตและเข้มแข็งในระยะยาว
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ต.ค. 2561 เวลา : 22:32:50
14-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 14, 2025, 9:21 pm