PwC ทั่วโลกเผยปี 2561 มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 4.13 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ1.33 ล้านล้านเติบโตเกือบ 10% จากปีก่อน โดยรายได้ใน 3 สายงานทั้งธุรกิจตรวจสอบบัญชี ธุรกิจที่ปรึกษา และธุรกิจกฎหมายและภาษี เติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าลงทุนมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาคุณภาพและเปลี่ยนโฉมสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจด้านการใช้เทคโนโลยีคลาวด์
ผลการดำเนินธุรกิจของเครือข่าย PwC ทั่วโลกรอบปีงบประมาณ 2561 (งบการเงินสิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2561) มีรายได้รวม 4.13 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.33 ล้านล้านบาท) ถือเป็นการสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และนับเป็นปีแห่งการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 21 ปี โดยรายได้ในสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 7% และในสกุลดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 10%
นายบ็อบ มอริตซ์ ประธาน บริษัท PwC โกลบอล เปิดเผยว่า การเติบโตนั้น เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับตลาดและการทำงานอย่างหนัก ความเป็นมืออาชีพ และการทุ่มเทของพนักงานกว่า 250,000 คนของเรา ที่ยังคงพัฒนาและจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราทั่วโลก
“ทุกสิ่งที่เราทำคือการมุ่งเน้นไปที่คุณภาพ และจุดประสงค์ของเรา ในการสร้างความเชื่อมั่นในสังคม และแก้ไขปัญหาที่สำคัญ”
นอกจากนี้ เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญที่สร้างนิยามใหม่ให้แก่ PwC รวมไปถึงคุณภาพและการบริการต่างๆ ที่เรามอบให้กับลูกค้า เช่นเดียวกับที่เข้ามาปรับโฉมโลกของธุรกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายทั่วโลกของ PwC มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการใช้แนวคิดด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา โดยจนถึงปี 2562 เรามีแผนที่จะลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในคลาวด์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเพิ่มคุณภาพและการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย
“เรามีความภาคภูมิใจในงานที่เราทำเพื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา รวมถึงบทบาทของเราในฐานะหนึ่งในผู้นำของโลกทั้งในด้านการจ้างงาน และฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินรายใหญ่ของโลก ตลอดจนการมีส่วนร่วมต่างๆ ที่เราทำเพื่อสังคมและชุมชนซึ่งเราดำเนินธุรกิจอยู่”
รายได้แยกตามประเภทธุรกิจ
ธุรกิจตรวจสอบบัญชี (Assurance) ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมายังเติบโตต่อเนื่องถึง 4% มาอยู่ที่ 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันของตลาดตรวจสอบบัญชีทั่วโลกที่เข้มข้นกว่าในอดีต โดยธุรกิจตรวจสอบในตลาดหลักยังมีการเติบโต แม้จะมีผลกระทบจากการบังคับการหมุนเวียนผู้ตรวจสอบบัญชี (Mandatory Audit Firm Rotation: MAFR) และเทคโนโลยีการตรวจสอบบัญชีกลายเป็นที่สนใจของตลาด
นอกจากนี้ ความซับซ้อนทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ สภาพแวดล้อมของการกำกับดูแล และความสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้เกิดความต้องการที่มากขึ้นในธุรกิจตรวจสอบบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยทาง ไซเบอร์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และ การบริการวางระบบองค์กร บริษัทต่างๆ มองหาการบริการทางดิจิทัล และ ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อรับมือกับการกำกับดูแล ความเสี่ยง และกฎระเบียบต่างๆ
ด้วยพนักงาน 107,000 คน ทำให้ PwC เป็นบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีและเครือข่ายทางด้านบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่อาจคาดเดา สภาพแวดล้อมทางการค้าที่ไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบ ซึ่งการทำงานเพื่อคาดการณ์ และบรรเทาความเสี่ยง จากสภาพแวดล้อม การกำกับดูแล และโลกไซเบอร์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการตรวจสอบบัญชีของ PwC และเป็นบริการที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรากำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก”
ขณะที่ นาย เจมส์ ชาลเมอร์ส หัวหน้าสายงานตรวจสอบบัญชี บริษัท PwC โกลบอล กล่าวว่า บริการตรวจสอบบัญชีถือเป็นธุรกิจหลักของเรามากว่า 150 ปี เป็นรากฐานในการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ของเรา และเราภาคภูมิใจในบริการที่ส่งมอบให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและตลาดทุน
ส่วนธุรกิจที่ปรึกษา ในปี 2561 รายได้เพิ่มขึ้น 10% เป็น 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งผลการดำเนินงานยังเติบโตอย่างสูงจากปี 2560 โดยแต่ละบริการของธุรกิจที่ปรึกษานั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริการดีล (Deals)การบริหารจัดการกลยุทธ์ การให้คำปรึกษาในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์ไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จได้จริงแก่ลูกค้า
นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากการให้บริการดั้งเดิมและเทคโนโลยีที่เราให้บริการ เราได้นำเสนอการให้บริการทางดิจิทัลในธุรกิจที่ปรึกษามากขึ้น ซึ่งบริการดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา
“เรามุ่งเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรม และวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ PwC ได้ผนวกแนวคิด บีเอ็กซ์ที (Business eXperience& Technology: BXT) เข้ากับบริการ เพื่อช่วยลูกค้าตอบสนองความต้องการในอนาคต และ Advertising Age ได้จัดอันดับการบริการทางดิจิทัลของ PwC ให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์ยังได้มอบ 40 รางวัลผู้นำใหม่ ให้กับธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC ในปีที่ผ่านมา”
ขณะที่ด้านกฎหมายและภาษีรายได้ เติบโต 8% มาอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงระบบภาษีภายในและภายนอกประเทศที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการปฏิรูประบบภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการบริการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตามหลักภาษีภายในประเทศ ภาษีอากรระหว่างประเทศและการกำหนดราคาโอน ด้วยประสบการณ์ด้านที่ปรึกษาภาษีของ PwC ไม่ว่าจะเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีศุลกากร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงาน ประกอบกับประสบการณ์ในการทำดีลภาษีธุรกิจทำให้ PwC เป็นผู้นำการให้คำปรึกษาในตลาดการควบรวมกิจการของโลก
ด้านรายได้จากธุรกิจบริการทางกฎหมายของเครือข่าย PwC ทั่วโลกยังคงเติบโต ด้วยการขยายความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ของบริษัท ปัจจุบัน PwC มีทนายความ 3,500 คนที่คอยให้บริการลูกค้าในกว่า 90 ประเทศ โดย PwC ได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับทนายความตรวจคนเข้าเมืองชั้นนำ ซึ่งจะเพิ่มความเชี่ยวชาญและความสามารถของเราให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขณะที่ความต้องการของลูกค้าในการปฏิรูประบบงานด้านทรัพยากรบุคคล และการบริหารจัดการการโยกย้ายและเปลี่ยนแปลงยังคงเติบโตเช่นกัน โดยปัจจุบันมีบุคลากรในด้านนี้กว่า 10,000 คน นอกจากนี้ เรามีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 5,000 คนที่มีความสามารถกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย
“PwC ถือเป็นเครือข่ายกฎหมายและภาษีที่ใหญ่ที่สุดของโลก เน้นให้คำปรึกษากับลูกค้าให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ Global Tax Code of Conduct พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบบภาษีทั้งในประเทศและทั่วโลก”
การเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับรายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้นั้น ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยีใหม่ๆ การให้บริการ และรวมไปถึงในด้านทาเลนท์ขององค์กร โดยรายได้ในอเมริกาเพิ่มขึ้น 4% ส่วนการเติบโตในยุโรปตะวันตกเองเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมากในยุโรปกลาง และตะวันออก โดยรายได้มีการเติบโต 10% ขณะที่ตะวันออกกลางและแอฟริกาเพิ่มขึ้น 12% สำหรับออสเตรเลียและแปซิฟิครายได้เติบโต 7% ทางด้าน PwC ในทวีปเอเชียผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น 15%
ด้าน นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า PwC ประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้รายได้ของเครือข่าย PwC ในเอเชียเติบโตอย่างโดดเด่นในปีที่ผ่านมา โดยรายได้ของทุกประเภทธุรกิจเติบโตอย่างโดดเด่นเช่นเดียวกันหมด นั่นเพราะความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อคุณภาพของการให้บริการและความสามารถของบุคลากรที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าและสังคม โดย PwC ประเทศไทย ไม่หยุดที่จะพัฒนาและลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณภาพในการให้บริการด้านต่างๆ แก่ลูกค้า
“ความต้องการในการใช้บริการจาก PwC เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคและทุกอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพในงานของเรา และการลงทุนที่เราคาดการณ์ไว้ต่อความคาดหวังและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการแนะนำบริการใหม่ๆ และการปรับปรุงการให้บริการของเรา”
ส่วน นางสาวแครอล ซอว์ดาย ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท PwC โกลบอล กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์จะยังคงเป็นอีกหนึ่งทิศทางเพื่อการเติบโตที่สำคัญของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีบล็อกเชนและการวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ ในขณะเดียวกัน เราก็จะพยายามมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการหลักของเรา เช่น การให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชี
เน้นคุณภาพและสร้างสรรค์นวัตกรรม
อย่างไรก็ดี คุณภาพของงานยังคงเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงานของเครือข่าย PwC ทั่วโลก โดยบริษัทได้ลงทุนด้านทรัพยากรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจของเครือข่าย PwC ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีใหม่ เพื่อขับเคลื่อนความสามารถและประสิทธิภาพของการตรวจสอบของบริษัท ควบคู่ไปกับธุรกิจอื่น ๆ ทั้งหมดของ PwC
“สำหรับธุรกิจตรวจสอบบัญชีในปีที่ผ่านมา เราได้ทดลองใช้เทคโนโลยีฮาโล (Halo) เข้ามาช่วยในการตรวจข้อมูลมากกว่า 150 พันล้านรายการ และในปีหน้าเครือข่าย PwC ทั่วโลกจะเริ่มใช้เครื่องมือ GL.ai ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "นวัตกรรมการตรวจสอบยอดเยี่ยมแห่งปี" เข้าช่วยในการตรวจสอบ ระบุความผิดปกติของการบันทึกรายการทางการเงินขององค์กร”
ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในคุณภาพและความโปร่งใสในการทำงานของ PwC โดยสามารถอ่านรายละเอียดกระบวนการทำงาน และผลการตรวจสอบคุณภาพภายในของ PwC ได้ที่ www.pwc.com/annualreview
ข่าวเด่น