แอ็พพลาย ดีบี หรือ ADB เผยความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อผลิตสินค้ากลุ่มยาแนวคืบหน้าตามแผน ตั้งเป้าเดินเครื่องจักรเฟสแรกในเดือน พ.ย.นี้ มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 500 ตันต่อเดือน และคาดเริ่มส่งมอบสินค้าที่ผลิตเพื่อรับรู้รายได้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป ด้านผู้บริหารวางแผนติดตั้งเครื่องจักรเฟส 2 และเฟส 3 ต่อเนื่อง กำหนดแล้วเสร็จในปี 2562 และปี 2563 ตามลำดับ หนุนกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มกาวและยาแนวเพิ่มอีก 700 ตันต่อเดือน
บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว และผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ อาทิ ADB DB SPARKO และรับจ้างผลิตนั้น ขณะนี้การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ (โรงงาน 4) ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการบางปู แฟคตอรี่ แลนด์ จังหวัดสมุทรปราการ คาดจะเริ่มเดินเครื่องจักรเฟสแรกเพื่อผลิตสินค้าในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าที่ผลิต เพื่อรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2562 เป็นต้นไป
นายหวัง วนาไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โดยโรงงานแห่งใหม่ เมื่อแล้วเสร็จจะต่อยอดการผลิตสินค้ากลุ่มกาวและยาแนว ที่จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น โดยแบ่งเป็นการผลิตสินค้าใหม่ ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนยาแนว และ 2.ผลิตภัณฑ์โมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเดิม ได้แก่ 1.อะคริลิกยาแนว และ 2.กาวแทนตะปู
สำหรับการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ แบ่งการติดตั้งเครื่องจักรเป็น 3 เฟส ซึ่งจะมีกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มยาแนวรวม 1,200 ตันต่อปี ใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท ซึ่งเงินทุนส่วนหนึ่งมาจากการระดมทุนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
“การติดตั้งเครื่องจักรเฟสแรกที่ตั้งเป้าเริ่มผลิตสินค้าในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีกำลังการผลิตติดตั้ง 500 ตันต่อเดือน เพื่อผลิตสินค้าประเภทซิลิโคนยาแนวสำเร็จรูป (Silicone sealant compound) ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม จำหน่ายภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ และรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM)”
นายหวัง กล่าวต่อว่า ส่วนการติดตั้งเครื่องจักรในเฟส 2 จะแล้วเสร็จในปี 2562 เพิ่มกำลังการผลิตอีก 500 ตันต่อปี เพื่อผลิตสินค้าประเภทซิลิโคนยาแนว และโมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว อย่างไรก็ตามอาจจะมีการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและภาพรวมความต้องการใช้สินค้าอีกครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์และแนวโน้มของตลาด ปรับแผนผลิตสินค้าใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาดและลูกค้า ขณะที่การติดตั้งเครื่องจักรเฟส 3 คาดจะแล้วเสร็จในปี 2563 จะมีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 200 ตันต่อเดือน
“เราต้องการขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มกาวและยาแนวเพื่อต่อยอดสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท โดยการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี และขยายฐานลูกค้าเดิมที่อยู่ในทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา ที่ยังมีความต้องการใช้สินค้าอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงจะสร้างแบรนด์สินค้าของบริษัท ให้เป็นที่รู้จักมายิ่งขึ้น โดยประเมินจากความต้องการใช้สินค้าในปัจจุบัน หลังจากเริ่มการผลิตในเฟสแรกแล้วจะสามารถใช้อัตราการเดินเครื่องจักรในระดับ 70% ได้ภายในปี 2562”นายหวัง กล่าว
ข่าวเด่น