บมจ. โอสถสภา ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทยและในภูมิภาคอาเซียน พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 17 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 75,093.75 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “OSP”
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. โอสถสภา เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “OSP” ในวันที่ 17 ตุลาคม 2561
OSP เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เช่น เอ็ม-150, เอ็ม-สตอร์ม, ลิโพวิตัน-ดี, ฉลาม, ชาร์คคูลไบท์, โสมอิน-ซัม, เอ็มเกลือแร่, เอ็ม-เพรสโซ และเปปทีน 2) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ที่ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กภายใต้แบรนด์ “เบบี้มายด์” และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิงภายใต้แบรนด์“ทเวลฟ์พลัส” นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชน ได้แก่ บริการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้าให้กับบุคคลภายนอก และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ ลูกอมภายใต้แบรนด์ โอเล่ และโบตัน
OSP มีทุนชำระแล้ว 3,003.75 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิม จำนวน603.75 ล้านหุ้น แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 506.75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ Orizon Limited และ Y Investment Ltd จำนวน 67 ล้านหุ้น และ 30 ล้านหุ้นตามลำดับ โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ กรรมการผู้บริหารและพนักงาน ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2561 และเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2561 ในราคาหุ้นละ 25 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 12,668.75ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 75,093.75 ล้านบาท โดยมี บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง และ บมจ. หลักทรัพย์ ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. โอสถสภา (OSP) เปิดเผยว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เป็นการเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ต้องการผลักดันการเติบโต และรักษาความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลในภูมิภาคนี้ และด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 127 ปี ทำให้บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่หลากหลาย ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในวงกว้าง จึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งอีกทางหนึ่งให้บริษัทฯ เติบโตย่างยั่งยืน
OSP มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 20.78% Orizon Limited 17.88% และ Merrill Lynch Singapore Pte.Ltd 7.04% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (bookbuilding) ซึ่งเป็นวิธีการสอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของผู้ลงทุนสถาบันในแต่ละระดับราคา โดยการตั้งช่วงราคา (price range) คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) ที่ 29.51 เท่า โดยคำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 ถึงไตรมาส 2 ปี 2561) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.85บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 60% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมหลังหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.osotspa.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
ข่าวเด่น