กองทรัสต์ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 3 เพื่อเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 4 มูลค่าไม่เกิน 4,464.50 ล้านบาท ด้าน ผู้บริหารดับบลิวเอชเอ ระบุ จุดเด่นทรัพย์สินที่ขายเข้ากองทรัสต์ เป็นโครงการ Built-to-Suit Warehouse ระดับสากล และมีการให้บริการโซลูชั่นครบวงจร ด้านผู้จัดการกองทรัสต์ฯ เผยภายหลังเพิ่มทุนขนาดทรัพย์สินรวมเพิ่มเป็น 32,800 ล้าน เปิดจองซื้อเดือนพ.ย.นี้ และโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์เสร็จธ.ค.นี้
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท WHART เป็นกองทรัสต์ ที่เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง WHA Group ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ได้ขายทรัพย์สินเข้า WHART อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้า IPO ในปี 2557 เป็นต้นมา
โดยรูปแบบโครงการของWHA Group จะเป็นโครงการ Built- to-Suit Warehouse ที่มีมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งยังมีการให้บริการโซลูชั่นครบวงจร ทั้งระบบสาธารณูปโภค แพลตฟอร์มโครงสร้างด้านพลังงาน และระบบดิจิทัล
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า โครงการของ WHA Group ส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้การส่งเสริมของของภาครัฐ และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการคลังสินค้า โรงงานในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก สอดรับกับแผนพัฒนาพื้นที่ของบริษัทฯที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย
ส่วนการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ของ WHART ในครั้งนี้ WHA Group ได้นำทรัพย์สินโครงการของบริษัท 2 โครงการ และโครงการที่พัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่าง WHA และกลุ่ม Central อีก 1 โครงการ รวมทั้งโครงการที่พัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่าง WHA และกลุ่ม KPN อีก 1 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย โครงการ WHA Mega Logistics Center (พระราม 2 กม. 35) มีพื้นที่เช่าอาคารประมาณ 14,084 ตารางเมตร ซึ่งมีเนื้อที่ดินที่เช่าประมาณ 17 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา
โครงการ Central WHA Mega Logistics Center (วังน้อย 63) พื้นที่เช่าอาคารประมาณ 86,223.61 ตารางเมตร บนที่ดินที่ดินรวมประมาณ 96 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา โครงการ WHA KPN Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม. 23) พื้นที่เช่าอาคารประมาณ 39,607 ตารางเมตร ซึ่งมีเนื้อที่ดินที่เช่าประมาณ 43 ไร่ 3 งาน และโครงการ DSG HSIL จังหวัดสระบุรี พื้นที่เช่าอาคารประมาณ 16,620 ตารางเมตร บนที่ดินรวมประมาณ 15 ไร่ เมื่อรวมทั้ง 4 โครงการ จะมีพื้นที่เช่าอาคารประมาณ 156,534.61 ตารางเมตร บนที่ดินรวมประมาณ 172 ไร่ 1 งาน 94 ตารางวา
ด้าน นายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะเป็นการเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สิน 4 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 4,464.50 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่เช่าคลังและโรงงาน 156,534.61 ตารางเมตร พื้นที่เช่าลานจอดรถ 13,822 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าหลังคา 35,212 ตารางเมตร บนที่ดินรวม 172 ไร่ 1 งาน 94 ตารางวา
“มั่นใจว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ อีกทั้งกองทรัสต์ WHART ยังสามารถรักษาสัดส่วนทรัพย์สินประเภท Freehold ต่อ Leasehold ในระดับใกล้เคียงเดิมประมาณ 70% ต่อ 30% ช่วยลดความเสี่ยงจากการลดมูลค่าของทรัพย์สินของกองทรัสต์ในอนาคต และสามารถรักษาระดับ Occupancy rate ได้ 90% อย่างต่อเนื่อง ด้วย profile ของผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ ซึ่งส่วนมากเป็นผู้เช่ารายใหญ่และมีความมั่นคง”
ภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งนี้ จะส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของ กองทรัสต์ WHART เติบโตแตะระดับ 32,800 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 28,192 ล้านบาท ในขณะที่ขนาดพื้นที่เช่าคลังและโรงงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,128,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันกองทรัสต์ WHART มีการลงทุนในทรัพย์สินหลัก 20 โครงการ ซึ่งมีพื้นที่เช่าคลังและโรงงานรวม 971,578.55 ตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคารวม 316,907.29 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าลานจอดรถรวม 12,789.90 ตารางเมตร บนที่ดินรวม 1,037 ไร่ 2 งาน 73.55 ตารางวา
ด้าน นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ผู้ช่วยผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวเสริมว่า การเพิ่มทุนหลังจากที่มีการเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหน่วยทรัสต์ WHART จากการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 จำนวนไม่เกิน 299.18 ล้านหน่วย โดยจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อกลางเดือนพฤศจิกายน 2561 และนักลงทุนทั่วไปจองซื้อปลายเดือน พฤศจิกายน 2561 และคาดโอนกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ได้ในช่วงประมาณปลายปี 2561
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 เพื่อการลงทุนเพิ่มครั้งที่ 4 ของกองทรัสต์ WHART นั้น มองว่าทรัพย์สินที่ทางกองทรัสต์ WHART เข้าไปลงทุนนั้น มีความโดดเด่นในในด้านทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งโลจิสติกส์ บนถนนบางนา-ตราด พร้อมทั้งมีการขยายการลงทุนไปยังทำเลแห่งใหม่ 1 โครงการเพื่อขยายการเติบโตและลดการกระจุกตัวของรายได้ของกองทรัสต์ ในบริเวณพระราม 2 กม. 35 จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นคลังสินค้าประเภทห้องเย็น และที่สำคัญมีผู้บริหารทรัพย์สินมืออาชีพ ในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ อย่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนได้เป็นอย่างดี
ข่าวเด่น