หุ้นทอง
"ออลล์ อินสไปร์" ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.จ่อเข้าเอ็มเอไอ-ขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น


“ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เสนอขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น หวังนำเงินไปพัฒนาโครงการคอนโดฯ พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของไทย โดยมีที่ปรึกษา เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ All Inspire ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ดิ เอ็กเซล ไรส์ และอิมเพรสชั่น ธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 26.79% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 560 ล้านบาท ซึ่งทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วมี 410 ล้านบาท หรือคิดเป็น 410 ล้านหุ้น และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้วเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ ครอบครัวธนวริทธิ์ ถือหุ้น 409.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% ซึ่งภายหลังจากเสนอขายไอพีโอ 150.00 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 26.79% แล้ว สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงเหลือ 73.21%

นายธนากร กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ และกฎหมาย

การยื่นคำร้องเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายพื้นที่ที่มีศักยภาพ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ประเภทคอนโดมิเนียมและแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ การให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ การลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อย และการให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด

นายธนากร กล่าวอีกว่า ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มุ่งเน้นพัฒนาโครงการในทำเลที่ตั้งบริเวณแนวระบบขนส่งมวลชนระบบรางของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานการออกแบบที่ทันสมัย รวมถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งแวดล้อมที่ดี ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ตามแนวคิด “Class of Living “ ชีวิตที่มีระดับ คือชีวิตที่คุณเลือกเอง

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในอนาคตจำนวน 6 แห่ง มูลค่าโครงการรวม 15,350 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 3,650 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมแบบ High Rise 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 11,700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ภายในปี 2562

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2558 มีรายได้รวม จำนวน 109.14 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.55 ล้านบาท ส่วนปี 2559 มีรายได้รวม จำนวน 419.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.03 ล้านบาท และปี 2560 มีรายได้รวม 714.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 80.80 ล้านบาท และผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้รวม จำนวน 1,153.89 ล้านบาท กำไรสุทธิ 165.16 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีการรับรู้เพิ่มขึ้นตามโครงการที่สร้างเสร็จในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ต.ค. 2561 เวลา : 20:46:18
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 3:15 am