นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2561 คาดว่าจะสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ 4.5% โดยเร่งขึ้นจากปีที่ผ่ามาจากที่ขยายตัว 3.9% จากแรงขับเคลื่อนหลักการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการจ้างงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมที่เริ่มขยายตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐจากปีก่อนหน้ายังเป็นแรงสนับสนุนให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอีกด้วย สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะยังคงสนับสนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวขยายตัวดีตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลงและนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมถึงการตอบโต้จากประเทศต่าง ๆ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าชะลอลงเล็กน้อย สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 จะอยู่ที่1.2% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 1.0 – 1.4%ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
“การประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งความผันผวนของตลาดการเงินโลก”นายพรชัย กล่าว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน ปี 2561 และไตรมาสที่ 3 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ในหลายภูมิภาค นำโดย ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนรวมถึงการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี2562 ทางสศค.คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 4% เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามยังมีอยู่ ทั้งเรื่องสงครามการค้า และความผันผวนของค่าเงิน จึงต้องขอติดตามสถานการณ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ก่อนจะประเมินอย่างเป็นทางการ
ข่าวเด่น