นางสดศรี พงศ์อุทัย รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ
พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป
จากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2561) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 326 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 5.55 ล้านบาท โดยแยกเป็น
- สุรา จำนวน 191 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 1.50 ล้านบาท
- ยาสูบ จำนวน 78 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 2.22 ล้านบาท
- ไพ่ จำนวน 8 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.06 ล้านบาท
- น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 8 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.11 ล้านบาท
- รถจักรยานยนต์ จำนวน 28 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 1.02 ล้านบาท
- สินค้าอื่น ๆ จำนวน 13 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 0.64 ล้านบาท
โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 1,272.615 ลิตร ยาสูบ จำนวน 3,802 ซอง ไพ่ จำนวน 372 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 2,910 ลิตร รถจักรยานยนต์ จำนวน 28 คัน
“หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว”
ข่าวเด่น