“เอเชีย กรีน เอนเนอจี” เผยไตรมาส 3 ปีนี้ รายได้รวมแตะ 2,236 ล้านเพิ่มขึ้น 10% ขณะที่กำไรสุทธิ 13 ล้าน ส่งผล 9 เดือน กวาดยอดขายถ่านหิน 2.64 ล้านตัน จากการจำหน่ายถ่านหินในประเทศ-ต่างประเทศ เพิ่มขึ้น เผยธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์รุ่ง สร้างฐานรายได้เข้าบริษัท มั่นใจภาพรวมผลการดำเนินงานปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20-25% ตามเป้า
บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) มีผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทมีรายได้รวม 2,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งที่มีรายได้รวม 2,039 ล้านบาท โดย รายได้ดังกล่าวมาจากธุรกิจขายถ่านหิน ที่ 2,092 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจให้บริการที่ 144 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 13 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 73 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2561 ของบริษัทฯมีรายได้รวม 5,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่ง มีรายได้รวม อยู่ที่ 4,659 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 92 ล้านบาท ลดลง 1.6%
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทฯมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการขยายตลาด และมีการวางกลยุทธ์การขาย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากปริมาณการขายในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 2.64 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 1.97 ล้าน ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีรายได้ จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ด้านการขนส่ง ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามจำนวนกองเรือลำเลียง 12 ลำ โดยรายได้จากธุรกิจบริการ ช่วง 9 เดือนอยู่ที่ 317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 219% จากปีที่ผ่านมา
“ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการขยายตลาดในประเทศ และต่างประเทศ และรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น จากการขยายกองเรือลำเลียง รวมทั้งขยายพื้นที่กองเก็บคลังสินค้าเพิ่ม โดยบริษัทมองว่ารายได้ในส่วนนี้จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในปีหน้า” นายพนม กล่าว
ส่วนภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ นายพนม มั่นใจว่า จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 20-25% จากปี 2560 ที่บริษัทมีรายได้รวม 5,949 ล้านบาท และยอดขายถ่านหินที่ระดับ 3 ล้านตัน ขณะที่ธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ และคลังสินค้า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 5% จากรายได้รวม เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2.5% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปี 2562 อยู่ที่เติบโต 20% หรือ 9,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหิน 90% และรายได้จากธุกิจให้บริการ 10% คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินในประเทศจะอยู่ที่ 75% และรายได้จากการขายถ่านหินในต่างประเทศอยู่ที่ 15%
ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้านั้น บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2562 ที่ 10% ของรายได้รวม โดยบริษัทได้ขยายพื้นที่คลังสินค้า เพื่อเพิ่มพื้นที่กองเก็บถ่านหิน และพื้นที่ให้บริการ รวมทั้งมีการต่อเรือลำเลียงเพิ่มเติมจำนวน 12 ลำ คาดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 ทำให้บริษัทจะมีกองเรือลำเลียงทั้งหมด 24 ลำ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งทางน้ำ ของบรรดากลุ่มผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรม ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข่าวเด่น