“ซันสวีท” ร่วมมือ “ล็อกซเล่ย์” เดินหน้าโครงการพัฒนาการเกษตรแม่นยำ นำเทคโนโลยี IOT sensor ส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหวาน เพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตให้แก่เกษตรกรต้นแบบ ผลักดันมาตรฐานเกษตรกรไทยใช้นวัตกรรม
บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้ตราสินค้า “KC” ได้ร่วมมือกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ในโครงการพัฒนาต้นแบบการเกษตรอัจฉริยะ โดยมีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นที่ปรึกษาหลักของโครงการ โดยโครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี IOT sensor มาใช้ในการเกษตรแบบแม่นยำ เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพกว่าการเกษตรแบบเดิม เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการปลูก และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในเครือข่ายของบริษัท
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อการนำเทคโนโลยี IOT sensor มาใช้กับฟาร์มเพาะปลูกอัจฉริยะ หรือ Smart Farm ของบริษัทเพื่อเป็นต้นแบบการใช้นวัตกรรมการเกษตรแบบแม่นยำให้กับเกษตรกรใน Contract Farming กับบริษัทฯที่มีมากกว่า 20,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง และจะเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรทั่วประเทศต่อไป
สำหรับโครงการพัฒนานวัตกรรมการเกษตร บริษัทได้มีการลงทุนและศึกษาวิจัยร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนหลายโครงการ อาทิ บริษัท บริลเลี่ยนท์ พาวเวอร์ จำกัด ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา 500Kwp (Solar PV Rooftop) และ บริษัท สกาย วีไอวี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการให้บริการด้านเกษตรกรรมแม่นยำ เพื่อนำนวัตกรรมการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศแบบ Multispectral จากอากาศยานไร้คนขับ โดยได้ทำการศึกษาวิจัยรวบรวมข้อมูลการปลูกข้าวโพดหวานครบทุกมิติ (บิ๊กดาต้า) ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาทางการเกษตร ด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อสร้างความเสถียรภาพตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมเมล็ดการเพาะปลูก ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่เป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์มีความสมบูรณ์มากขึ้น จนไปถึงขั้นตอนการผลิตเพื่อยกมาตรฐานอุตสากรรมการเกษตรในประเทศไทย
“ในส่วนของการผลิตสินค้า ช่วงนี้ถือว่าเป็นไฮซีซั่นของการปลูกข้าวโพดหวาน ส่งผลให้บริษัทฯได้ปริมาณผลผลิตข้าวโพดหวานค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆของปี ประกอบบริษัทฯได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรผลิตข้าวโพดหวานแช่แข็ง (Frozen) แล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตได้จากเดิม 3 เท่า หรือ ประมาณ 20,000 ตันต่อปี ทำให้บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น และมีความมั่นใจในกำลังการผลิตสินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ”
ข่าวเด่น