นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพัฒนาการให้บริการประชาชนเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล ด้วยช่องทางให้เลือกใช้บริการที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิดอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหน ก็ชำระภาษีรถประจำปีได้ง่ายๆ อาทิ ช่องทางชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการเคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ หรือชำระผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยดำเนินการได้ทุกเครือข่ายมือถือ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เพียงรอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีที่จัดส่งให้ทางไปรษณีย์
นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบก ได้ยกระดับบริการภาครัฐที่เร็วขึ้นง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น กรณีเลือกเดินทางมาชำระภาษีรถประจำปีที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1- 5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศแบบ One Stop Service หรือ“เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ หรือเลือกใช้ช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีช่องทางอื่น ได้แก่ ที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 14 แห่ง (ลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล3 อ่อนนุช แจ้งวัฒนะ สำโรง บางบอน สุวินทวงศ์ สมุทรปราการ บางใหญ่ บางนา) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค (พัฒนาการ)
รวมทั้งห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการในส่วนภูมิภาคอีก 50 แห่ง ศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิร์ล, เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัล Westgate) ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เครือข่ายทั้งภาครัฐ รัฐวิหาสกิจ และภาคเอกชน ได้แก่ ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งทุกช่องทางการรับชำระภาษีรถประจำปี สามารถดำเนินการล่วงหน้าก่อนสิ้นอายุภาษี 90 วัน ทุกสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเจ้าของรถบางรายที่รถสูญหาย หรือรถอยู่ระหว่างการซ่อมหรือเลิกใช้แล้ว โดยชำรุดจนใช้งานไม่ได้ เจ้าของรถต้องมาติดต่อขอแจ้งการหยุดใช้รถต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ทันที โดยใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ และแบบคำขอแจ้งการไม่ใช้รถ โดยหากไม่แจ้งการหยุดใช้รถและปล่อยให้รถค้างชำระภาษีถึง 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับ และจะต้องชำระภาษีรถที่ค้างชำระย้อนหลังอีกด้วย
ทั้งนี้หากเจ้าของรถมีความประสงค์ขอใช้รถต่อในภายหลัง สามารถดำเนินการแจ้งใช้รถดังกล่าวได้ เพียงใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call Center 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น