กระทรวงท่องเที่ยวรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวในเดือนตุลาคม ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติติดลบ 0.51% ครั้งแรกในรอบปี สะท้อนถึงจีดีพีไตรมาส3 ที่โตเพียง 3.3% ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ หวังมาตรการยกเว้นค่าวีซ่าและเที่ยวเมืองรอง หนุนท่องเที่ยวไทย
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในเดือน ต.ค.61 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ หดตัว 0.51% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเดือนต.ค.61 เมื่อเปรียบเทียบกับ ต.ค.60 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางทางอากาศติดลบเกือบ 4% ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวยุโรปที่จำนวนลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากประเด็น Brexit ของอังกฤษ ที่เริ่มสร้างความสับสนให้ตลาดยุโรปพอสมควร โดยถือว่า ต.ค.61 เป็นเดือนแรกในรอบ 10 เดือนที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติติดลบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย สปป.ลาว เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย รัสเซีย อเมริกา กัมพูชา และสิงคโปร์
ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้ 141,060.57 ล้านบาท ขยายตัว 0.66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ลาว และอินเดีย ตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์คนไทยเที่ยวไทยในเดือน ก.ย.61 มีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 13.44 ล้านคน-ครั้ง ขยายตัว 2.46% และการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวของชาวไทย คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ 93,089.18 ล้านบาท ขยายตัว 4.50% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งเมืองหลักและเมืองรองมีการเติบโตเป็นบวกอย่างเข้มแข็งทุกเดือน และไทยเที่ยวไทยน่าจะเป็นความหวังในระยะต่อไปได้พอสมควร โดยทำรายได้รวม 9 เดือนที่ 7.88 แสนล้านบาท
ด้านเมืองรอง หลังจากรัฐบาลมีนโยบายการกระจายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรองและยังมีมาตรการภาษีออกมา มีการทำการส่งเสริมการตลาด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างต่อเนื่อง ปรากฎว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวเมืองรองดีขึ้นมากพอสมควร อัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวไปเมืองรองเกือบ 5% ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเมืองหลัก
ดังนั้นถือว่า ปี 61 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวเมือรอง โดยเมืองรองที่มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวสูงสุด คือ นครพนม นครนายก น่าน ระนอง ส่วนเม็ดเงินที่กระจายไปสู่เมืองรอง 1.65 แสนล้านบาท เติบโตเกือบ 9% ถือว่าสูงมากเป็นประวัติการณ์เนื่องจากปีก่อนๆหน้านี้อัตราการเติบโตไม่ถึง 6%
นายพงษ์ภาณุ กล่าวถึงเป้าหมายรายได้ 3 ล้านล้านบาท ว่า ถึงตอนนี้ไม่มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายได้ เพราะในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ 2 ล้านล้านบาท ขณะนี้ทำได้ 1.632 ล้านล้านบาท โดย 2 เดือนสุดท้าย ต้องทำอีก 3.7 แสนกว่าล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1.8 แสนล้านบาท
ส่วนมาตรการยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว (Visa On Arrival : VOA) ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา นายพงษ์ภาณุ ยอมรับว่า มีส่วนกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น โดยตัวเลขในช่วงวันที่ 1-14 พ.ย.ที่ ติดลบ2.12% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หลังจากเริ่มใช้ฟรีค่าธรรมเนียม VoA พบว่ากลับมาเป็นบวก 12% ณ วันที่ 15 พ.ย.61 เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มมาตลอด 5 วัน ทำให้โดยรวมวันที่ 1-20 พ.ย.61 นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 2 ล้านคน ขยายตัว 0.52%
ข่าวเด่น