กระทรวงอุตสาหกรรมโชว์ผลสำเร็จ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจ SMEsในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป” เผยผู้ประกอบการขอรับความช่วยเหลือครอบคลุม 4 ด้าน “การผลิต – การตลาด - การบริหารจัดการธุรกิจ – นวัตกรรมและเทคโนโลยี” สามารถเพิ่มผลิตภาพด้วยเทคโนโลยี ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติให้ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง 2,000 กิจการ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาท ต้นทุนลดลงกว่า 700 ล้านบาท ลดของเสียในกระบวนการผลิตกว่า 200 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,900 ล้านบาท พร้อมเปิดเวทีสัมมนาดึงกูรูการตลาดชื่อดังแนะเทคนิคผู้ประกอบการเตรียมพร้อมธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEsในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องผ่าน “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจ SMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป” ซึ่งขณะนี้โครงการฯ ดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและผลการดำเนินงานนับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ในด้านของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ลดต้นทุนภายในองค์กร ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต นำมาซึ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตรของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมได้กว่า 1,900 ล้านบาท
“กระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนา SMEs และวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ สิ่งที่สำคัญคือผู้ประกอบการจะต้องประเมินขีดความสามารถของตนเองว่ามีความพร้อมมากเพียงใด และหาข้อบกพร่องของตนเองให้เจอและเร่งปิดข้อบกพร่องนั้น รวมทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการนำระบบดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านของกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อเป็นการปรับกระบวนทัพองค์กรให้มีความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มแข็ง และสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายระยะยาวในการที่จะยกระดับให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวม” นายสมชาย กล่าว
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับผลสำเร็จของโครงการฯ นับว่าเป็นไปตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยสามารถเพิ่มผลิตภาพ หรือ Productivity ให้กับ SMEs ภาคการเกษตรอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องหรือต่อยอดเป็นซัพพลายเชน และอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้องจำนวน 2,000 กิจการ สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็นต้นทุนที่ลดลงกว่า 700 ล้านบาท และคิดเป็นของเสียที่ลดลงกว่า 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว กสอ. ยังได้มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ตามแนวคิดการเพิ่มผลิตภาพเชิงบูรณาการ ตลอดจนแนะแนวทางการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีการใช้นวัตกรรมใหม่ ก้าวทันเทคโนโลยี ให้แก่ผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกจำนวน 4,000 คน
“ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ทาง กสอ. ได้มีการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารจัดการของวิสาหกิจอย่างเข้มข้น และมีผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือและส่งเสริมศักยภาพในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 53 % ด้านการตลาด 27 % ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ 6% ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 6 % และอื่น ๆ 8 % ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ต่างมีความพร้อมที่จะเร่งปรับตัวและพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงระบบการบริหารจัดการภายในให้มีขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ เป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มแข็ง” นายกอบชัยกล่าว
สำหรับในวันนี้ นอกจากการสรุปผลความสำเร็จในการดำเนินโครงการฯ แล้ว ในงานยังจัด “สัมมนาAgro-Industry 4.0” โดยมีการแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการฯ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตนมและโยเกิร์ต “แดรี่ โฮม”, โรงงานฟอกหนัง บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และผู้ผลิตแมคคาเดเมียแปรรูป “แมคนัทเลย” พร้อมด้วยช่วงสนทนาแนะเทคนิค ในการเตรียมพร้อมธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 จากนักสร้างแรงบันดาลใจ “บอย-วิสูตร แสงอรุณเลิศ” และ นักการตลาดชื่อดังของเมืองไทย “อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย” อีกด้วย
ข่าวเด่น