27 พฤศจิกายน 2561 เวลาประมาณ 02:52 น. ตามเวลาประเทศไทย ยานสำรวจอวกาศอินไซต์ (Interior Exploration using Seismic Investigations, Geodesy and Heat Transport : InSight) ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือนาซา ลงจอดบนพื้นผิวของดาวอังคารอย่างปลอดภัย นับเป็นครั้งที่ 8 ของมนุษยชาติที่นำยานลงจอดบนดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี
นายมติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพื้นผิวและชั้นบรรยากาศของดาวอังคารซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีน้ำอยู่ในสถานะของเหลวไหลอยู่บนพื้นผิวมาก่อน กระทั่งปัจจุบันก็ยังมีน้ำผุดขึ้นมาบนพื้นผิวไหลปนอยู่กับแร่ธาตุก่อนจะระเหิดไป นอกจากนี้ ยังทราบว่าในอดีตดาวอังคารสูญเสียชั้นบรรยากาศไปเป็นจำนวนมากจากพายุสุริยะ แต่เราทราบข้อมูลเกี่ยวกับดาวอังคารน้อยมาก การตอบคำถามว่าภายในพื้นผิวและภายในแกนกลางของดาวอังคารประกอบขึ้นจากอะไร แกนกลางของดาวอังคารมีขนาดใหญ่แค่ไหน ร้อนเพียงใด จึงเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของโครงการอินไซต์
อุปกรณ์ที่ติดไปกับตัวยาน ได้แก่ หัววัดความร้อนใต้พื้นผิว (Heat Flow and Physical Properties Probe : HP3) เปรียบเป็นปรอทวัดไข้ดาวอังคาร โดยขุดเจาะลงไปในพื้นผิว 5 เมตร ซึ่งเป็นระยะลึกที่สุดที่เคยขุดเจาะมา จากนั้นวัดอุณหภูมิและความร้อนภายในแกนกลางของดาวอังคารที่ปลดปล่อยออกมา เพื่อบอกข้อมูลความร้อนบริเวณใจกลางพื้นผิวที่ดาวอังคารปลดปล่อยออกมาในทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมี อุปกรณ์วัดขนาดและองค์ประกอบของแก่นดาวอังคาร (Rotation and Interior Structure Experiment : RISE) อุปกรณ์สำหรับวัดตำแหน่งของดาวอังคารอย่างละเอียด เพื่อวัดอัตราการ "ส่าย" ว่าขณะที่ดาวอังคารหมุนรอบตัวเองนั้น ส่ายไปมามากน้อยแค่ไหน เช่นเดียวกับการหมุนไข่ไก่จะบอกเราได้ว่า ภายในไข่ไก่นั้นยังเป็นของเหลวอยู่ หรือว่าต้มสุกแล้ว การวัดอัตราการส่ายของดาวอังคารจะบอกได้ว่าภายในแกนกลางของดาวอังคารหลอมเหลวอยู่หรือไม่ มากน้อยเพียงใด
ส่วนอุปกรณ์สุดท้าย คือ อุปกรณ์ตรวจวัดความสั่นไหวบนพื้นผิวดาวอังคาร (Seismic Experiment for Interior Structure : SEIS) เป็นเครื่องมือวัดการสั่นสะเทือน หรือวัดการเกิด "แผ่นดินไหว" เปรียบได้กับการวัด "ชีพจร" ของดาวอังคาร แผ่นดินไหวบนดาวอังคารสามารถอธิบายเกี่ยวกับตัวกลางภายใต้พื้นผิวของดาวว่า ใต้พื้นผิวมีน้ำเป็นองค์ประกอบมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวยังตรวจจับการชนของอุกกาบาตบนดาวอังคารได้
(ซ้าย) ภาพแรกที่ได้จากยานสำรวจอวกาศอินไซต์ ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพมุมกว้าง Instrument Context Camera (ICC) ผ่านฝาครอบเลนส์ที่เต็มไปด้วยฝุ่น เพื่อป้องกันความเสียหายซึ่งฝาครอบดังกล่าวจะถอดออกในเวลาต่อไป
(ขวา) ภาพถ่ายวันเดียวกันหลังลงจอดสำเร็จ จากกล้อง Instrument Deployment Camera (IDC) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณแขนของยานสำรวจ
นายมติพล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการอินไซต์ จึงเปรียบได้กับการตรวจเช็คสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่ของดาวอังคารในรอบ 4.5 พันล้านปีที่ผ่านมา นอกจากตรวจวัดอัตราการส่าย วัดอุณหภูมิและความร้อนภายในแกนกลาง และวัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวแล้ว ยังหวังว่าจะสามารถศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบภายในของดาวอังคารได้มากยิ่งขึ้น จนอาจนำมาซึ่งคำตอบได้ว่า เหตุใดทุกวันนี้ ดาวอังคารจึงเป็นดาวเคราะห์ที่ไร้ซึ่งชีวิต แตกต่างจากโลกที่เต็มไปด้วยชีวิต และสาเหตุมาจากความแตกต่างระหว่างแกนกลางของดาวเคราะห์ทั้งสองนี้หรือไม่
ข่าวเด่น