หุ้นทอง
"AECS "ชี้ตลาดหุ้นโค้งสุดท้าย ส่อแววอึมครึม


“AECS ”ชี้ตลาดหุ้นโค้งสุดท้าย ส่อแววอึมครึม – ปัจจัย ตปท.กดดันตลาด แนะทยอยสะสม หุ้นกลุ่ม Media – ค้าปลีก – นิคม – ธนาคาร ยังน่าจับตา

 

บล.เออีซี ประเมินหุ้นไทย ช่วงโค้งสุดท้ายส่อแววไร้ความคึกคัก การลงทุน ยังคง แกว่งตัว ในกรอบแคบๆ โดยให้แนวรับ ที่ 1,557 จุด และแนวต้านที่ 1,653 จุด ระบุปัจจัยต่างประเทศ ยังคงเป็นแรงกดดันตลาดทุน แนะทยอยลงทุนหุ้น ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำอย่าง กลุ่ม Media  ( PLANB, VGI ) กลุ่มค้าปลีก( ROBINS, CPN, COL ) กลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA ) และกลุ่มธนาคาร (BBL , KBANK )  พร้อมแนะหลีกเลี่ยงลงทุนกลุ่มรับเหมาฯและกลุ่มอสังหาฯ เหตุ การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลเชิงลบต่อต้นทุนในการทำธุรกิจของทั้ง 2 กลุ่มนี้


คาดได้รับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มชัดเจนขึ้น แนะเฝ้าติดตามตลาดต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แนะลงทุน PLANB, VGI ,ROBINS, CPN, COL ,AMATA, WHA ,BBL, KBANK 

บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่าในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือ SET Index ยังคง แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ที่ระดับแนวรับ 1,557 จุด และ แนวต้านที่ 1,653 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากดดัน อาทิ เรื่องตัวเลขเศรษฐกิจจีน ที่ชะลอตัวด้วยผลจาก Trade Wars บวกกับการประชุม FOMC ที่เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค.ที่คาดการว่าจะมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่การประชุมกนง.ในวันที่19 ธ.ค.นี้  คาดว่าดอกเบี้ยจะถูกปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.75% ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดี  ปัจจัยจากการเลือกตั้ง ที่มีแนวโน้มชัดเจนขึ้นก็ส่งผลเชิงบวกต่อภาคการลงทุน  

นอกจากนี้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้จับตา ปัจจัยที่จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญต่อตลาดทุน โดยเฉพาะ ตัวเลขเศรษฐกิจจีน ที่ตอกย้ำถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะกดดันกำลังซื้อในประเทศหลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดทางการจีนประกาศตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. ที่ต่ำกว่าคาด(ยอดค้าปลีกต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003) ต่อเนื่องจากดัชนีผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ประกาศออกมาก่อนหน้า กดดันSentimentลงทุนในตลาดหุ้น EM ที่มีสัดส่วนการส่งออกไปยังจีนมากและสร้างความกังวลต่อความต้องการใช้พลังงานที่น้อยลงตามภาวะเศรษฐกิจ  ทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ

พร้อมกันนี้จากกรณีที่ ธนาคารของกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ เริ่มหันมาใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น โดยล่าสุด ECB ประกาศยกเลิกโครงการ QE อย่างเป็นทางการและส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ในปีหน้าและการประชุม Fed ที่จะมีขึ้นวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ เชื่อมั่นว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ สู่ระดับ 2.25-2.5% (Implied Prob. จาก Fed Fund Futures อยู่ที่ 72.4%) ซึ่งจะส่งผลให้ Fund Flow มีทิศทางไหลออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยง (กังวลผลจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจะกระทบต่อกำไรของหลายบริษัท และผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่จะแข็งค่าขึ้นยังลดความน่าสนใจของตลาดหุ้น EM ลง          

ทั้งนี้ยังคงต่อรอติดตามแถลงการณ์ที่จะออกมาอย่างไรก็ตามจากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นทางบล.เออีซี  แนะนำ Overweight ทยอยสะสมหุ้น Domestic Play 4 กลุ่มหลัก อาทิ กลุ่มOut of Home Media แนะนำ PLANB, VGI    กลุ่มค้าปลีก แนะนำ ROBINS, CPN, COL  กลุ่มนิคม แนะนำ AMATA, WHA  และ กลุ่มธนาคารแนะนำ BBL, KBANK  ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เราแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน เนื่องจากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธปท.ในการประชุมกนง.ครั้งนี้ (19 ธ.ค.) จะส่งผลต่อต้นทุนในการทำธุรกิจของทั้ง 2 กลุ่มนี้ บวกกับส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านและคอนโด      

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ธ.ค. 2561 เวลา : 12:49:26
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 9:42 am