“โกลเบล็ก”ชี้ปัจจัยเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหนุนตลาดหุ้นไทยให้กรอบดัชนี 1,570–1,620 จุด แนะลงทุนกลุ่มค้าปลีก-นิคมอุตสาหกรรม-สถาบันการเงิน
บล.โกลเบล็กมองปัจจัยต่างประเทศเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้น บวกปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศจากภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยให้กรอบดัชนี 1,570–1,620 จุด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก-นิคมอุตสาหกรรม-สถาบันการเงิน ส่วนราคาทองคำมีสัญญาณอ่อนตัวจากการกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้น หลังปัจจัยเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่นักลงทุนคลายกังวลมากขึ้นให้กรอบราคาทองคำ 1,270-1,300 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัดหรือGBSกล่าวว่าตลาดหุ้นไทยยังคงให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และภาวะชัตดาวน์หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐอาจมีทางออกแม้ยังตกลงเรื่องงบประมาณก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไม่ได้ จากการผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนเปิดดำเนินการได้ตามปกติ โดยเฉพาะหน่วยงานในกระทรวงการคลังและหน่วยงานสรรพากรเพื่อให้ประชาชนได้รับภาษีคืนตามกำหนดเวลา
อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกในประเทศยังคงมีต่อเนื่องโดยภาคอุตสาหกรรมของประเทศยังมีโอกาสเติบโตในอนาคตจากการสนับสนุนการลงทุนในระยะยาวในภาคอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพเติบโตและอุตสาหกรรมอนาคต(New S-curve)
ส่วนปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 79.4 ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในอนาคตหลังมาร์กิตเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐในเดือนธันวาคมขยายตัว 54.4 ต่ำสุดรอบ 3 เดือน ส่วนดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนเดือนธ.ค.ร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี อีกทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองต่างๆ เรียกร้องไม่ให้อังกฤษเลือกถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU)
ขณะที่ปัจจัยที่ยังคงจับตาต่อคือ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปและในวันที่ 7-8 ม.ค.เจ้าหน้าที่ระดับกลางของสหรัฐฯและจีนเจรจาร่วมกันเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทด้านการค้าก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจะเจรจาอีกรอบในปลายเดือนนี้ ส่วนวันที่ 9 ม.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) โดยมีวาระพิจารณาขึ้นบัญชียา-ค่ารักษาที่มีปัญหาร้องเรียนว่าอยู่ในระดับสูง
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบกว้าง โดยให้กรอบการเคลือนไหวของดัชนี1,570–1,620 จุด และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกแนะนำCPALL, HMPRO, ROBINS, BJC หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมแนะนำ AMATA, WHA หุ้นกลุ่มธนาคาร/การเงิน แนะนำ BBL, KTB, MTC
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าราคาทองคำมีแนวโน้มชะลอตัวหลังประธาน Fed ประกาศว่าจะมีการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและพร้อมจะปรับแผนการลดงบดุล เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้น แต่เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในภาวะชะลอตัว และการฟื้นตัวมีแนวโน้มยากลำบากจากภาวะสงครามการค้า แม้ทางการได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงหลายครั้งแล้วก็ตาม
ในขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองในฝั่งสหรัฐฯเองก็สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ จึงคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะพักตัวแต่มีโอกาสจะขึ้นไปแกว่งเหนือ 1,300 ดอลลาร์ โดยราคาในประเทศจะถูกกดดันมากขึ้นด้วยการแข็งค่าของเงินบาท คงคำแนะนำให้เล่น swing longและทยอยปิดทำกำไรเป็นระยะๆ ในกรอบ 1,270-1,300 ดอลลาร์
ข่าวเด่น