บล.โกลเบล็ก”ชี้ปัญหาสหรัฐฯชัตดาวน์-BREXIT กดดันหุ้นไทยให้กรอบดัชนี 1,565 – 1,605 จุด-แนะลงทุน AOT- CENTEL-ERW
บล.โกลเบล็กมองหุ้นไทยเจอแรงกดดันจากปัจจัยลบต่างประเทศภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯที่ยืดเยื้อและการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(Brexit)ส่อวุ่นหากรัฐสภาไม่สนับสนุนข้อตกลง แม้มีปัจจัยบวกจากรัฐบาลเร่งเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่มูลค่า 4 หมื่นลบ.และการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยฟรีวีซ่าให้กรอบดัชนี 1,565 – 1,605 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30 เม.ย.62 ชู AOT- CENTEL-ERW ส่วนราคาทองคำแนะกลยุทธ์ swing long ลุ้นทะลุ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดหรือGBS กล่าวว่าดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ชะลอตัวลงหลังสหรัฐฯรายงานตัวเลข CPI ประจำเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศเป็นเรื่องที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทยอยพิจารณาการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในเดือน ม.ค. กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการงานระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท และภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของเดือนม.ค. 2562 มีแนวโน้มดีขึ้นจากการเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และการขยายมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA : Visa On Arrival)
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุนในช่วงนี้ยังคงเป็นภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯที่ยืดเยื้อ ส่งผลลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯในอนาคตได้หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนทางอังกฤษล่าสุดนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตือนว่าอังกฤษอาจเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่หากรัฐสภาไม่โหวตสนับสนุนข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(Brexit) ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ผลการลงมติว่านางเมย์จะเป็นฝ่ายแพ้และการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปของไทยยังไม่ชัดเจน
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตาในสัปดาห์นี้ได้แก่วันที่ 14 - 21 ม.ค.หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยประกาศงบปี 2561และในวันที่ 15 ม.ค. รัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติต่อร่างข้อตกลงในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) วันที่ 16 ม.ค. สหรัฐเปิดเผยราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.ค.ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book (เช้าวันที่ 17 ม.ค.) วันที่ 17 ม.ค. อียู เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค. วันที่ 18 ม.ค. สหรัฐเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ1,565 – 1,605 จุด โดยแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขยายเวลาให้ฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30 เม.ย.62 ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW รวมถึงหุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นช็อปช่วงตรุษจีน แนะนำ CPALL, MAKRO, BJC
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าสัปดาห์นี้ติดตามการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษว่าจะทำอย่างไรต่อไปหากสภาโหวตไม่รับร่างข้อตกลง Brexit เนื่องจากจะทำให้ความเสี่ยงต่าง ๆ เปิดกว้างมากขึ้น เพราะนายกฯยืนกรานเส้นตายเดิมวันที่ 29 มี.ค.ในการออกจากสหภาพยุโรป และ EU ยืนกรานว่าจะไม่มีการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อตกลงใดๆ อีก ทางเลือกที่เป็นไปได้จึงเหลือแค่ ดำเนินการต่อไปแบบ no deal Brexit หรือ ยกเลิกขั้นตอนที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วกลับไปทำประชามติใหม่อีกครั้ง
ส่วนกราฟราคาทองคำมีแนวโน้มจะออกจากกรอบแกว่งตัวรูปสามเหลี่ยมใต้ระดับ1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในสัปดาห์นี้ โดยคาดหวังให้ทะลุขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวจากแรงหนุนของสกุลเงินดอลลาร์ที่ค่อนข้างอ่อนแรง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงอื่นเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค ทั้งกรณี shutdown ในสหรัฐฯ Brexit ในยุโรป และสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมชะลอตัวลง แต่ราคาทองคำในประเทศยังคงถูกกดดันให้ปรับขึ้นได้น้อยกว่าราคาตลาดโลกจากแนวโน้มเงินบาทที่ยังคงแกว่งในลักษณะแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้แนะนำให้รอเล่น breakout follow ด้วยกลยุทธ์ swing long เมื่อทะลุแนว 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และ short เมื่อราคาไม่สามารถยืนในช่วงแนวรับ 1,280–1,285 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้
ข่าวเด่น