หุ้นทอง
"โกลเบล็ก"ชี้ปัจจัยต่างประเทศหนุนตลาดหุ้นไทยให้กรอบดัชนี 1,565-1,605 จุด


“โกลเบล็ก”ชี้ปัจจัยต่างประเทศหนุนตลาดหุ้นไทยให้กรอบดัชนี 1,565 – 1,605 จุด  แนะลงทุนหุ้นปันผลสูง


บล.โกลเบล็กมองตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์ปัจจัยต่างประเทศคลี่คลายทั้งเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย บวกกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีแนวโน้มตกลงกันได้  หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,605 จุด แนะลงทุนในหุ้น High Dividend Yield ชู KAMART-SIRI-SNC-ORI-DIF-BTS-GIF-SC-MC-AIT-QH-KKP -TKS ส่วนราคาทองคำเก็งกำไรในกรอบ 1,275–1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ กังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว  

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์จากปัจจัยต่างประเทศมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯมีความระมัดระวังมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  จากที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้ราว 2 -2.5% ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปี 2561 และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มคลี่คลายลงโดยสหรัฐฯ กำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ขณะที่จีนเสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ อาทิ การส่งออกของไทยเดือนธันวาคม 2561 ลดลง1.72%แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 0.6% ส่วนการส่งออกทั้งปี 61เติบโต 6.7% พลาดเป้าที่ระดับ 8% รวมถึงจีนเผย GDP ไตรมาส 4/61 ขยายตัว 6.4% ดีกว่าคาดที่ 6.3% ตลอดปี 61 ขยายตัว 6.6% แม้สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดที่ 6.5% แต่ต่ำกว่าปี 60 ที่ขยายตัว 6.9% และภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯยังยืดเยื้อทำสถิติยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสแรก

ขณะที่ปัจจัยที่ยังคงจับตาในสัปดาห์นี้ คือ ความชัดเจนของวันเลือกตั้ง ส่วนในวันที่ 22 ม.ค.กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอที่ประชุมครม.ควบคุมค่าบริการทางการแพทย์ของรพ.เอกชน และวันที่ 23 ม.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

รวมถึงวันที่ 24 ม.ค.ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย อียู และสหรัฐฯ  เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.และในวันที่25 ม.ค. ธปท.มีกำหนดชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวน คาดจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ1,565–1,605จุด แนะลงทุนในหุ้น High Dividend Yield ได้แก่ KAMART, SIRI, SNC, ORI, DIF, BTS,GIF, SC, MC, AIT, QH, KKP, TKS รวมถึงหุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการคืน VAT 5% กระตุ้นช็อปช่วงตรุษจีน แนะนำ CPALL, MAKRO, BJC และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขยายเวลาให้ฟรีค่าธรรมเนียม VOA แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30 เม.ย.62 ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษเข้าใกล้จุดที่ต้องเลือกว่าจะทำอย่างไรต่อไประหว่าง เดินหน้าไปสู่ no deal Brexit หรือ ยอมถอยกลับไปทำประชามติใหม่ หรือ ยอมถอนตัวเพื่อให้คณะทำงานใหม่เข้ามาจัดการแทน แต่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าโอกาสที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปลดลงแล้ว ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงในภูมิภาคนี้ลดลงด้วย  อย่างไรก็ตาม ควรติดตามถ้อยแถลงเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายในอนาคตของ ECB ในวันที่ 24 ม.ค.ด้วย

ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯเริ่มมีข่าวดี ทั้งเรื่อง shutdown ที่ฝั่งรีพับลิกันน่าจะผ่อนข้อเสนอลง และฝั่งเดโมแครตอาจปรับท่าทีมายอมประนีประนอมมากขึ้น และเรื่องสงครามการค้ากับจีนที่การเจรจามีความคืบหน้าไปอย่างมากจากการที่ปธน.ทรัมป์ลดท่าทีที่แข็งกร้าวลง ทำให้นักลงทุนคาดหวังถึงความเสี่ยงโดยรวมที่ลดลง แต่ควรติดตามความคิดเห็นและข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญในการประชุม World Economic Forum ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23–26 ม.ค.นี้ประกอบด้วย แม้ว่าสหรัฐฯถอนตัวและระดับผู้นำจากหลายชาติสำคัญต่างงดเข้าร่วมก็ตาม

ส่วนด้านราคาทองคำถูกขายทำกำไร แต่ยังมีแนวโน้มแกว่งในกรอบระหว่าง1,275–1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากได้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยหนุน แต่โอกาสจะทะลุขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ มีน้อยลงจากการที่เงินทุนต่างไหลกลับมาเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อตอบรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ลดลง แต่ราคาทองคำในประเทศยังจะถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งคาดการณ์การดีดกลับไม่พ้นระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ถ้าราคามีแนวโน้มจะแกว่งแบบอ่อนตัว

ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์โดยอิงราคาในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ด้วยการเล่นเก็งกำไรในกรอบ1,275–1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเน้นปิดทำกำไรและตัดขาดทุนเร็ว ส่วนการเก็งกำไรทองคำในรูปสกุลเงินบาทให้เน้นตั้งรับเมื่อราคาอ่อนตัว และอาจพิจารณาเข้าซื้อมากขึ้นเมื่อเงินบาทส่งสัญญาณอ่อนตัว

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ม.ค. 2562 เวลา : 12:44:28
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 2:28 pm