ดัชนีหุ้นไทย แม้จะมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ระดับ 1629 จุดตามคาด ถือเป็นแนวต้านระยะสั้นที่สำคัญ ทำให้ในระหว่างวัน มีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องและติดลบในที่สุด แต่ยังไม่หลุดทำ New low
ในขณะที่สัปดาห์นี้ (28 ม.ค.-1 ก.พ.) โดยในวันนี้ (28 ม.ค.) เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันเป็นตัวแทนแนวรับระยะสั้น จะขยับขึ้นมาแถวๆ 1616 จุด และเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันจะขยับลงมาที่ 1628 จุด ใช้กรอบดังกล่าวเป็นช่วงแกว่งตัวชั่วคราวได้ หาก ดัชนีปรับตัวขึ้นทำ New high มีโอกาสที่จะผ่านขึ้นไปแถวๆ 1649 จุด แต่ถ้าหลุดทำ New low ดัชนีน่าจะซึมลงไปได้แถวๆ 1598-1597 จุดก่อนที่จะดีดกลับรอบใหม่ได้ต่อไป
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ PRM ซึ่งแนวรับ 5.75 บาท โดยที่มีแนวต้าน 6.15 บาท ซึ่งระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน พร้อมทั้งมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ในขณะที่ MACD กำลังจะดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้ หากวันนี้(28) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับแถวๆ 5.75 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นปรับตัวขึ้นผ่านเส้น Bollinger Top ขึ้นไปแถวๆ 6.15 บาทต่อไป
ขณะที่ TKN มีแนวรับ 8.05 บาท โดยมีแนวต้าน 8.55-8.60 , 9.00-9.10 บาท ซึ่งระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากผ่านขึ้นมาเล่นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นพอสมควร หากวันนี้(28) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 8.05 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้น Bollinger Top ที่ 8.55-8.60 บาทต่อไป โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 9.00-9.10 บาท
ด้าน III มีแนวรับ 5.40 บาท ส่วนแนวต้าน 5.70 , 5.80-5.85 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2-3 สัปดาห์ โดยปิดได้ในระดับสูงของวันเหนือเส้น Bollinger Top เล็กน้อย พร้อมวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับ MACD ที่กำลังจะผ่านขึ้นเหนือศูนย์ หากวันนี้(28) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 5.40 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 5.70 บาท และเส้นค่าเฉลี่ย 75-200 วันที่ 5.80-5.85 บาทต่อไป
ขณะที่ บรรรยากาศ การลงทุนในตลาดทองคำ สัปดาห์ที่ที่ผ่าน เมื่อถึงเมื่อเวลา 11.30 น วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,282.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,281.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นเล็กน้อยราว 0.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์เท่านั้น ซึ่งตลอดสองทั้งสัปดาห์ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ จนราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,276.70-1,286.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แกว่งตัวในกรอบต่ำกว่า 10 ดอลลาร์ จากขาดประเด็นใหญ่ๆกระทบ ซึ่งระหว่างสัปดาห์มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำโลกเล็กน้อยบ้าง ได้แก่ ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาด
ส่วนประเด็น Brexit นายกรัฐมนตรีของอังกฤษก็แถลงว่าไม่สนับสนุนการแยกตัวออกจากกลุ่มยุโรป และจะไม่ขยายเวลาการแยกตัวจากเดิมที่มีกำหนดการว่าต้องภายใน 29 มีนาคมนี้ ส่วนฝากสหรัฐ เรื่องการหยุดหน่วยงานราชการสหรัฐชั่วคราวบางแห่งยังดูยืดเยื้อ หลังวุฒิสภาสหรัฐไม่ผ่านร่างกฎหมายสองฉบับซึ่งเป็นฉบับที่รวมเรื่องงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นริมชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกที่ประธานาธิบดีทรัมพ์อยากให้ผ่าน
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้น ประมาณ 0.055 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.685 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.740 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.630-31.850 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น จากที่แนะนำให้สะสมซื้อเก็งกำไรมา ราคาย่อตัวครั้งล่าสุดมีการยกจุดต่ำสุดขึ้น ทำให้ยังควรถือทองคำต่อไป สำหรับคนที่ยังไม่ได้ขาย หากราคาหลุดต่ำกว่า 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายทำกำไรออกไปก่อน แล้วรอซื้อกลับบริเวณ 1,260-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือใช้จุดสูงสุดที่สร้างขึ้นใหม่ในระยะหลังทำ Trailing Stop เมื่อมีส่วนต่างเกิน 15 ดอลลาร์ ให้ขายออกไปก่อนเช่นกัน
สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ได้สะสมทองคำตามคำแนะนำเมื่อราคาต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังแนะนำให้ถือทองคำต่อไป ซึ่งราคาขึ้นมาถึงเป้าของปี 2561 แล้วที่บริเวณ $1,290-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคายืนบริเวณนี้ได้ เป้าหมายถัดไปที่ 1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น