หุ้นทอง
"AECS "แนะจับตาผลการเจรจาสงครามการค้าตัวแปรชี้ดัชนีขึ้น-ลง


“AECS ”แนะจับตา ผลการเจรจาสงครามการค้า ตัวแปรชี้ดัชนี ขึ้น-ลง เปิด 10 หุ้น EKH, LPH,RJH ,BCH ,SAWAD, MTC,AMANAH ,JMT, PLANB ,COM7 น่าลงทุน


บล.เออีซี ระบุ ตลาดหุ้นไทยต้องเฝ้าระวังConsensusที่ปรับคาดการณ์ EPS ปีนี้ของดัชนี SETลงต่อเนื่องจากช่วงต้นปี บวกกับนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับขายสุทธิเป็นเวลา6วันติดต่อกันโดยต่างประเทศมีความกังวลประเด็นทางการเมือง หลัง“โดนัลด์ ทรัมป์”ประกาศภาวะฉุกเฉินประกอบกับผลการเจรจาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ และยืดเยื้อต่อ โดยฝ่ายวิจัยประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่1,630 - 1,665 จุด แนะกลยุทธ์ 3 กลุ่มหลัก 10 หุ้นเด่น น่าลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาล EKH, LPH,RJH และ BCH กลุ่มจำนำทะเบียนรถ SAWAD, MTC และ AMANAH รวมถึงหุ้นที่มีผลกำไรปี 61 โตโดดเด่น ต่อเนื่องไปปี 62 อาทิ JMT, PLANB และ COM7

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)หรือAECS ระบุว่าดัชนี SET มีโอกาสแกว่งผันผวนในกรอบ โดยต่างประเทศ มีความกังวลประเด็นทาง การเมืองหลัง นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกอบกับผลการเจรจาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ยังไม่ได้ ข้อยุติและยืดเยื้อต่อ ขณะฝั่งตลาดหุ้นไทยต้องเฝ้าระวัง Consensus ที่ปรับคาดการณ์ EPS ปีนี้ของดัชนี SET ลงต่อเนื่อง จากช่วงต้นปี บวกกับนักลงทุนต่างชาติ พลิกกลับขายสุทธิเป็นระยะเวลา 6 วันติดต่อกัน ส่งผลให้มีการประเมินกรอบแนวรับรายวันที่ 1,620 จุด และแนวต้านที่1,640 จุด

นอกจากนี้ยังได้ประเมิน SET Index ในช่วงสัปดาห์นี้ว่าดัชนีมีการพักฐานหลังConsensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่า เมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.16 บาท ขณะที่ปัจจุบัน เหลือเพียง 111.26 บาท หรือลดลง 3.39% YTD บวกกับนักทุนต่างชาติ ที่ขายหุ้นติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6 วันทำการติดต่อกัน มูลค่ารวม เท่ากับ 9,854.8 ล้านบาท ทำให้เรามองว่า SET Index มีโอกาสหลุด แนวรับ 1,630 จุด และมีโอกาสปรับตัวไปอยู่ในแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,600 จุด ดังนั้น แนะนำให้ลดพอร์ต เพื่อถือเงินสดบางส่วน และทยอยซื้อกลับใน 3 กลุ่มหุ้นเด่น เมื่อดัชนีปรับตัวลงมา ในกรอบแนวรับ ดังกล่าว

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราอิงกับหุ้นที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ EKH, LPH,RJH และ BCH

กลุ่มจำนำทะเบียนรถอาทิ SAWAD, MTC และ AMANAH เนื่องจากรับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนโดยที่มีระบุว่า ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท 2) ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับความสามารถ ในการชำระหนี้ และ3)อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 28% ซึ่งเรา มองว่าไม่ได้ต่างไปจากที่ตลาดคาดก่อนหน้าและหุ้นกลุ่มสุดท้ายที่แนะนำ คือหุ้นที่มีความโดดเด่นจากการคาดการงบปี 61โดยเฉพาะกำไร ที่เติบโต YoY และ Consensus ยังคาดโตต่อในปี 62 แนะนำ JMT, PLANB และ COM7

อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยมอว่าแม้ว่าในสัปดาห์นี้เราลดมุมมองเชิงลบลงจากปัจจัยที่สำคัญ จากการเจรจาการค้า ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีความคืบหน้ามากขึ้น แต่ยังไม่ได้ข้อยุติและจะมีการเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ โดยทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณา เลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีสินค้าอีกไปอีก 60 วัน เพื่อให้มีเวลาในการเจรจาการค้ามากขึ้น

ทั้งนี้สหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล(Government shutdown)รอบที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯมีงบประมาณไปจนถึงเดือน ก.ย.แต่ยังมีความเสี่ยงจาก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เซ็นลงนาม ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้มีงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ซึ่งไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส ทำให้สหรัฐฯยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยทางด้านการเมือง

อีกทั้งในเรื่องของราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม OPEC ปรับลดกำลังการผลิตลง 0.797 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือ 30.806 ล้านบาร์เรลต่อวัน บวกกับสหรัฐฯมีการแทรกแซงประเทศเวเนซุเอลา และอิหร่าน ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก ตึงตัวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มสูงขึ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ก.พ. 2562 เวลา : 17:57:15
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 4:56 pm