“โกลเบล็ก”ปรับยุทธศาสตร์เชิงบวกรุกธุรกรรมด้านการลงทุนคลอดโปรดักส์ Structured Notes เจาะฐานลูกค้าใหม่ สู่การลงทุนแบบครบวงจรเตรียม ดัน4บริษัทน้องใหม่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บล.โกลเบล็กเดินหน้าปรับยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจใหม่รุกหนักธุรกรรมด้านการลงทุน หวังตอบโจทย์ลูกค้าด้านการลงทุนแบบครบวงจร ลุยเปิดตลาด โปรดักส์ Structured Notes เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High Net worth ขณะที่ CEO “ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ” มั่นใจแผนกลยุทธ์ใหม่จะสร้างความ บาลานซ์ ด้านโครงสร้างรายได้ทางธุรกิจ ด้านบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ เตรียมดัน4บริษัทน้องใหม่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดหรือGBS เปิดเผยว่าในปี 2562บริษัทฯจะมีการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุก โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรมากขึ้นและไม่พึ่งพิง ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ฯเพียงอย่างเดียว โดยล่าสุดบริษัทฯมีธุรกรรมด้านการลงทุนใหม่ๆโดยเปิดให้บริการและเสนอขาย“หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง”(Structured Notes)เพื่อสร้างความหลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม High Net Worth ได้มากขึ้น
สำหรับ“หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง”ที่บล.โกลเบล็กได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. มีทั้งสิ้น 12 ประเภท ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์อ้างอิงและทุกสภาวะตลาด โดยเบื้องต้น บริษัทฯออกและเสนอขายหุ้นกู้มีอนุพันธ์แฝงจำนวน 3 ประเภท ได้แก่ 1.Fixed Coupon Bull Target Return Note (GBS03) 2.Protected Bull Note (GBS04) และ3. Fixed Coupon Protected Bull Note (GBS12) โดยทั้ง 3 ประเภทอ้างอิงหลักทรัพย์ในดัชนี SET50 ทั้งนี้หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงทั้ง 12 ประเภท ที่บริษัทฯออกและเสนอขายนั้น ผู้ลงทุน ที่สนใจสามารถออกแบบหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ตอบสนองรูปแบบการลงทุนของตนเองได้ โดยหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET50 เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกหุ้นอ้างอิงตัวใดก็ได้ใน 50 ตัวที่อยู่ในดัชนีนี้ อีกทั้งยังสามารถเลือกราคาใช้สิทธิของหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงเพื่อให้เหมาะสมกับผลตอบแทนจากการลงทุนในสภาวะตลาดนั้นๆ
นอกจากนี้บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นสรรหารายได้และสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ อาทิ รายได้ จากค่าที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียม ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน IB และฝ่ายค้าตราสารทุน (Bond) ฝ่ายตลาดรอง , การหาลูกค้ากลุ่มเครดิตบาลานซ์ เพื่อสร้างรายได้ส่วนดอกเบี้ย Margin Loan และ ธุรกรรม block Trade ของฝ่ายตราสารอนุพันธ์ อย่างต่อเนื่อง
“ในปี 2562บริษัทมุ้งเน้นธุรกรรมด้านการลงทุนอื่นๆที่หลากหลาย อาทิ Fund Market ซึ่งเป็นแหล่งรวมกองทุนรวม , การขายตราสารหนี้ (หุ้นกู้) แบบมีเรทติ้ง มีอัตราผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย ซึ่งเหมาะกับผู้มีเงินออมแต่มีความเสี่ยงน้อยกว่าตลาดทุน รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Notes) ซึ่งสามารถรับผลตอบแทนตามเงื่อนไขของแต่และสินค้าตามความเสี่ยงที่สามารถเลือกเองได้ ทั้งนี้การลงทุนนอกเหนือกว่าตลาดทุน บริษัทเปิดกว้างให้กับนักลงทุนทั่วไป ”นายธนพิศาล กล่าว
ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัทในเครือ บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ว่า สำหรับในปี 2562 มีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งสิ้น 4 บริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ. วีแอล เอ็นเตอร์ไพรส์ ดำเนินธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางเรือ 2. บมจ.โรงพยาบาล อินเตอร์เมด ดำเนินธุรกิจตรวจสุขภาพเคลื่อนที่และตรวจสิ่งแวดล้อม 3.ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และ4. ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ
พร้อมทั้งกล่าวยอมรับว่าการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้มีความท้าทาย ในการเสนอขายหลักทรัพย์มากขึ้นดังกล่าวในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน จึงต้องนำเสนอบริษัทที่มีศักยภาพและมีผลการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องที่สำคัญบริษัทนั้นๆต้องเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจ รวมถึงต้องการกำหนดราคาเสนอขาย และมีส่วนลดราคา IPO ที่เหมาะสม ภายใต้ความผันผวนของการซื้อขายหลักทรัพย์ ในปัจจุบัน
ส่วน น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งทั่วไปและการจัดตั้งรัฐบาลที่ช่วยปลดล็อคจากการเป็นรัฐบาลรัฐประหารที่เป็นเงื่อนไขห้ามลงทุนของกองทุนบางประเทศ ซึ่งจะทำให้กองทุนเหล่านั้นเข้ามาลงทุนเพิ่มความคึกคักให้กับตลาดหุ้นมากขึ้น บวกกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีความคืบหน้าช่วยสร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่พื้นที่และค่าเงินบาทแข็งค่าในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคช่วยหนุน fund flow ไหลเข้า
แนะจับตาปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุน อาทิ สงครามการค้า ที่มีความไม่แน่นอนว่า สหรัฐฯและจีน จะตกลงเจรจาการค้าได้สำเร็จหรือไม่ โดยกำหนดการเลื่อนอัตราจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ใกล้ถึงกำหนดในวันที่1 มี.ค.เรื่อง BREXITเป็นความเสี่ยงของการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนและอังกฤษมีความเสี่ยงในการออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง เมื่อถึงเส้นตายในวันที่ 29 มี.ค. 2562
รวมทั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(กนง.)มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย1-2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีที่แล้ว”
ขณะที่นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเสริมว่า สำหรับในปี 2562มองกรอบดัชนี 1,586-1,790 จุด อิง EPS growth 7.8% ที่ระดับ PE ratio 12.7 – 14.3 เท่า การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการกลับมาซื้อ โดยซื้อสุทธิ 6.7 พันล้านบาทในเดือนม.ค.2562
“แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ได้แก่ 1) กลุ่มสื่อโฆษณา แนะนำ VGI, MACO และ PLANB 2) หุ้นกลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL, MAKRO และ BJC ส่วน TKS ได้งานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และหุ้น MAI ที่ประเมินว่าจะได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้ง ได้แก่ TACC, LIT และ FSMART หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวกลับสู่ปกติใน 1Q62 แนะนำ AOT, CENTEL และ ERW”
ข่าวเด่น