TQM ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 62แตะที่ 12,690 ล้านบาท โต14% ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินงานใน 8 โครงการหลัก พร้อมเดินหน้าขายบริการการเงินอื่น-เจรจาพันธมิตรร่วมทุนธุรกิจที่จะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ระบุบอรด์อนุมัติจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นจากผลดำเนินงานไตรมาส4 หุ้นละ 30 สตางค์

ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี62ว่า บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 12,690 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,095 ล้านบาท โดยจะเดินหน้าพัฒนาโปรดักท์ประกันภัยร่วมกับพันธมิตร ที่เน้นการตอบโจทย์กับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค พร้อมเสริมทัพด้วยการให้บริการที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอด 24ชั่วโมง ทั้งด้านออฟไลน์และออนไลน์ตามคอนเซปท์ "TQM Beside, Fight for Fair เพื่อนที่อยู่เคียงข้างคุณ 24 ชั่วโมง" ทั้งด้านการขายและการให้บริการ
(8).jpg)
โดยในปีที่ผ่านมาTQM นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางขาย ภายใต้โครงการ"TQM Digital"ที่จะพัฒนาการขายในตลาดประกันออนไลน์ (Insure Tech)" พัฒนาฟีเจอร์ Real-time Chatbot เปิดตัว "TQM Blue Beary Bot" ผ่าน LINE Official ที่สามารถซื้อประกันภัยผ่าน Chatbot ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งTQMประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา จากการพัฒนาโปรดักท์ และการให้บริการที่สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล ทั้งนี้บริษัทฯพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตในปี 2562
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานของกลุ่มทีคิวเอ็มในปี 2562 ได้วางแนวทางไว้เป็นโครงการหลักๆ 8 โครงการ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่
- โครงการ BIG DATA PROJECT เป็นโครงการที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงสามารถสื่อสารได้ตรงกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจ ด้วยการใช้ AI มาประมวลผลและวิเคราะห์เพื่อใช้ในการนำเสนอ Products ให้ตรงความต้องการของลูกค้า
- โครงการ Products Segmentation เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าตามความต้องการหรือพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มกับบริษัทประกัน ด้วยการขยายผลเจาะลึกมากขึ้น หรือการขยายความร่วมมือกับบริษัทประกันเพิ่มขึ้น
- โครงการ LIFE INSURANCE PLATFROM เป็นเปรียบเสมือนตัวช่วยที่จะทำให้ลูกค้าสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการเปรียบเทียบประกันชีวิตที่มีความเหมาะสมและคุ้มค่ากับตนเองมากที่สุดและเป็นPlatformที่ช่วยสนับสนุนระบบงานขายประกันชีวิตของบริษัทฯด้วย
- โครงการ Non Motor INSURANCE PLATFROM เป็นโครงการที่พัฒนาสำหรับใช้สนับสนุนงานขายประกันหมวด Health, PA, TA, Home เพิ่มความสะดวกในการเลือกทำประกัน
- โครงการ LINE CHATBOT / AI / CHAT CENTER โครงการที่จะเพิ่มช่องทางการขายแบบ Omni Channel และพัฒนา Chatbot เพื่อมาตอบสนองทั้งในแง่การบริการและงานขาย
- โครงการ AFFILIATE / STRATEGIC PARTNER เป็นโครงการทางการตลาดในการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเจ้าอื่นๆเพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส3หรือต้นไตรมาส4
- โครงการใช้เทคโนโลยีเพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ต่อยอดกับสาขาและศูนย์ประสานงานของทีคิวเอ็มทั้ง 95 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่
- โครงการ Financial Brokerเป็นโครงการนายหน้าให้บริการทางด้านการเงิน เพื่อรองรับบริการด้านการเงินให้กับฐานลูกค้าของบริษัท ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1 ล้านราย โดยบริษัทฯจะจับมือกับพันธมิตรทางการเงินเพื่อเป็นผู้แนะนำผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อรถ จากเดิมที่เป็นผู้ขายประกันเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันและในธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในครึ่งปีหลังนี้ โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 2,000 ล้านบาท
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการTQMกล่าวว่าผลประกอบการปี2561รายได้รวม 2,525.04 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 10.67 จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,281.67 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ จำนวน 2,424.45 ล้านบาทเติบโตร้อยละ10.60และมีกำไรสุทธิ 404.3 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 50.7 ที่มีกำไรสุทธิ 268.31 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตที่ดีมาจากภาพรวมธุรกิจโบรคเกอร์ ประกันภัยในปี 2561ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของการเติบโตของเบี้ยประกันภัยในภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่มประกันภัยรถยนต์ที่เติบโตอย่างโดดเด่นตามยอดขายรถยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส4ให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 30สตางค์ โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่10 พ.ค.นี้
สำหรับแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศCLMVนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปี 63 หลังจากที่บริษัทฯสร้างการเติบโตภายในประเทศ จากการดำเนินกลยุทธ์ทั้ง 8 โครงการดังกล่าว รวมถึงการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตร ทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ข่าวเด่น