“AECS ”หุ้นไทยรับข่าวบวกเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคืบ แนะลงทุนหุ้นได้อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่า–กลุ่มโรงพยาบาล-กลุ่มจำนำทะเบียนรถ
บล.เออีซี ระบุ หุ้นไทยตอบรับปัจจัยบวกต่างประเทศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเลื่อนระยะเวลาการเก็บภาษีจีนออกไปจากเดิม 1 มีนาคม และเปิดเจรจารอบใหม่ปลายเดือนมีนาคมนี้ พร้อมแนะจับตาการชัตดาวน์สภาอีกครั้ง หากไม่ผ่านงบสร้างกำแพงของสหรัฐและการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ โดยให้กรอบการลงทุนแนวรับ 1,661 จุด แนวต้าน 1,78 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น –กลุ่มโรงพยาบาล-กลุ่มจำนำทะเบียนรถ
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)หรือAECS ระบุว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนเป็นหลัก เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. เพื่อให้มีเวลาในการเจรจามากขึ้นและอาจมีการเจรจาการค้ากันในช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่สนามกอล์ฟของทรัมป์ในรัฐฟลอริด้า โดยสหรัฐได้มีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีนจะมีการซื้อสินค้าทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐฯ 10 รายการมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯนายโดนัลทรัมป์ เพื่อให้มีงบในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาอาจถูกยับยั้งโดยสภาคองเกรสหากมีมติมากกว่า 2 ใน 3 ในสภาฯแต่ทรัมป์ยังมีอำนาจในการคัดค้านหรือวีโตได้
รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่GDPไตรมาสที่ 4 , ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต(ISM ManufacturingPMI)ประจำเดือน ก.พ. ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาชะลอตัว และจับตาท่าทีของสหรัฐฯและยุโรปในช่วง 90 วันที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์เคยขู่ที่จะใช้มาตรการ Safe Guard ในสินค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยการเก็บภาษีสูงถึง 25%
ส่วนตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวกจากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนบวกกับเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD ทำให้มองว่าSET Indexมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด และแนวต้านระยะกลางรอทดสอบที่ระดับ 1,678 จุด แนะนำกลยุทธ์ซื้อ 3 กลุ่มหุ้นเด่น ดังนี้ 1. กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แนะนำ SYNEX, FTE และ AAV 2. กลุ่มโรงพยาบาล เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องแนะนำ EKH, RJH, BCH และ BDMS 3.กลุ่มจำนำทะเบียนรถ รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD และ MTC
ข่าวเด่น