บลจ.ธนชาตเปิดตัวกองทุนT-MultiIncome กองทุนรวมผสมเน้นโอกาสสร้างรายได้ระหว่างการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นลงทุนในหุ้นปันผล กองทุนอสังหาฯหุ้นกู้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาลเปิดขายครั้งแรก1-11 มีนาคมนี้ ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 50,000 บาท
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัดเปิดเผยว่าบริษัทได้ออกกองทุน T-MultiIncomeใหม่เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการโอกาสสร้างรายได้จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีนโยบายเป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน ผู้จัดการกองทุนสามารถจัดการสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ได้ตามความเหมาะสมในตลาดแต่ละสภาวะ ทำให้การบริหารกองทุนนี้มีความยืดหยุ่น เหมาะกับตลาดการลงทุนในปัจจุบันที่มีความผันผวน ปรับเปลี่ยนค่อนข้างเร็ว
ดังนั้นการที่ลงทุนกระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งจะทำให้ผลตอบแทนในบางช่วงขาดทุนค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่ายังมีนักลงทุนที่ไม่ชอบให้ผลตอบแทนระหว่างทางเหวี่ยงมากๆ ยิ่งเหวี่ยงขาลง ยิ่งยอมรับไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นกองทุนนี้ก็จะตอบโจทย์นักลงทุนกลุ่มนี้ได้ดีเพราะมีการผสมผสานสินทรัพย์แต่ละประเภทไว้ด้วยกัน
กองทุน T-MultiIncomeจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างรายได้ อาทิ หุ้นปันผล กองทุนอสังหาฯ หุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละขณะได้ นับเป็นการจัดพอร์ตการลงทุนอย่างหนึ่ง แม้จะลงทุนในกองทุนนี้เพียงกองทุนเดียวก็ตาม นอกจากนั้นกองทุนยังมีโอกาสได้รายรับจากหลากหลายทางทั้งจากเงินปันผลและดอกเบี้ยด้วย
จากสถิติที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหุ้นไทยในแต่ละปีทำผลงานได้แตกต่างกันมีทั้งปีที่ทำผลตอบแทนโดดเด่น และปีที่ติดลบค่อนข้างสูงแต่ในปีที่หุ้นไทยทำผลงานไม่ดีพบว่ากองทุนอสังหาฯกลับทำผลงานได้ดีกว่ามาก ดังนั้นการผสมและปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่าง 2 สินทรัพย์นี้มีโอกาสช่วยให้ผลตอบแทนระหว่างทางของกองทุนมีความสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนั้นการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาลก็มีโอกาสช่วยให้พอร์ตลงทุนมีรายรับจากดอกเบี้ยระหว่างลงทุนด้วยอีกทางหนึ่ง
สำหรับมุมมองทิศทางการลงทุนในปีนี้ เชื่อว่าแม้จะยังมีความผันผวนแต่ก็มาจากปัจจัยภายนอกมากกว่า เพราะปัจจัยในประเทศที่จะมากระทบกับการลงทุนน่าจะมีเพียงการเลือกตั้งเท่านั้น
“จากนี้ไปบลจ.ธนชาตยังเชื่อว่าในปี 2562ตลาดหุ้นไทยจะยังมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่แม้จะมีทีท่าดูคลี่คลายลงบ้างแต่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่ ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มีทีท่าอ่อนลงแต่ก็ยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอยู่ดี แต่ทั้ง2เรื่องข้างต้นก็มีแง่มุมที่บวกต่อการลงทุนอยู่ ถ้าสหรัฐฯและจีนสามารถตกลงกันได้และเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจริงๆ
นอกจากปัจจัยภายนอกแล้ว คาดว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่จะเป็นผลลบต่อหุ้นไทยคงน้อยมาก เพราะปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 287,459 ล้านบาท การจะสามารถเทขายเหมือนปีที่ผ่านมาคงทำได้ยาก ดังนั้นคาดว่าในปีนี้ตลาดหุ้นจะเทรดในกรอบ 1,550-1,760 และหากว่าเงินทุนไหลเข้ามาในระดับที่สูงและการเลือกตั้งของไทยเป็นไปอย่างราบรื่นก็มีโอกาสจะเห็น1,750 ในครึ่งปีแรกด้วยเช่นกัน”
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนในระยะแรกจะเน้นหุ้นที่สามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยดูจากประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ต้องอยู่ในระดับที่ดีประมาณ 1-3 ปีย้อนหลัง และวิเคราะห์ว่ามีแนวโน้มสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ จะเน้นหุ้นกู้คุณภาพดีอยู่ในระดับ investment grade ที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ มีสภาพคล่องสูง มีความมั่นคงเป็นบริษัทขนาดใหญ่และมีฐานะการเงินดี สำหรับการลงทุนกองทุนอสังหาฯจะพิจารณาลงทุนในกองทุนอสังหาฯ คุณภาพดีที่สามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งพิจารณาประวัติการจ่ายเงินปันผล 1-3 ปีย้อนหลัง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของเงินปันผล ประกอบกับทรัพย์สินของกองทุน ว่าอยู่ในทำเลที่ดี มีศักยภาพและผู้บริหารทรัพย์สินมีความน่าเชื่อถือ
กองทุนT-MultiIncomeเหมาะกับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนได้ใน1ปีแรก โดยมีนโยบายจ่ายคืนผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนในรูปแบบการรับซื้อคืนอัตโนมัติ (Auto Redemption) โดยจะจ่ายคืนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง เปิดขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 1-11 มีนาคมนี้ ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 50,000 บาท ส่วนครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท
ข่าวเด่น