หุ้นส่อซึมต่อก่อนลุ้นรีบาวด์แถว 1647-1653 จุด แนะทองหลุด1,290 ดอลลาร์“ตัดขาดทุนทันที”
ดัชนียังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีได้หลุดลงมาปิดGAที่เปิดเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยดัชนีได้หลุดลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันบริเวณ 1647 จุด ก่อนจะปิดหลุดลงมาในที่สุด กลายเป็นการหลุดเส้นUptrend Lineจบรอบขาขึ้นระยะสั้น
ซึ่งวันนี้(4 มี.ค.)ดัชนีมีโอกาสซึมลงต่อได้ที่1634-1633 จุด ก่อนจะมีลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิคสั้นๆกลับไปแถวๆ1647-1653 จุดได้ สำหรับแนวต้านหลักอยู่แถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่1666 จุด และแนวรับถัดไปเส้นค่าเฉลี่ย75วันที่ 1621 จุด
ส่วนหุ้นที่แนะนำสำหรับสัปดาห์นี้ ได้แก่ CMC โดยมีแนวรับ1.77-1.75 บาท ส่วนแนวต้าน1.82 , 1.91 บาท ซึ่งระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นทำNew high ในรอบ 3สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย อีกทั้ง MACD ยังเริ่มดีดกลับขึ้นมายืนเหนือSIGNALได้อีกครั้ง
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ1.77-1.75 บาทเสียก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 1.82 บาทและลุ้นขึ้นต่อทำ New high แถวๆ 1.82 บาทและ 1.91 บาทต่อไป
ขณะที่JMARTจะมีแนวรับ 6.75-6.70 , 6.40 บาท ส่วนแนวต้าน 7.45 บาท ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 1 เดือน โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
อีกทั้งMACDยังเริ่มดีดกลับขึ้นมายืนเหนือSIGNALได้อีกครั้ง หากวันนี้(4)ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.75-6.70 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อทำNew highแถวๆ7.45 บาทต่อไป
และหุ้นFNมีแนวรับ 1.60 บาท ส่วนแนวต้าน 1.72-1.74 , 1.84 บาท ซึ่งมีระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้ง
หลังจากหลุดลงมาในวันก่อนหน้าในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นพร้อมระดับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย หากวันนี้(4) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาทำ New low ต่ำกว่า 1.60 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1.72-1.74 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1.84 บาทต่อไป
ด้านตลาดทองคำ ปรากฏว่าภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเวลา 13.20 น วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่1,312.75ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ1,332.80ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลงมากไปถึง 19.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หลังเมื่อสัปดาห์ก่อนราคาทองคำโลกแตะสูงสุดใกล้เคียงระดับ1,350ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งมีแรงขายออกมาตลอดสัปดาห์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,312.135-1,334.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเริ่มต้นสัปดาห์ราคาบวกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเจอแรงขาย
ในวันทำการที่เหลือของสัปดาห์หลังการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐมีความคืบหน้า โดยสหรัฐมีแนวโน้มจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปอีก ทำให้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงมีเงินไหลเข้า เช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นตลอดสัปดาห์เช่นกัน ประกอบกับราคาไม่สามารถยืนแนวรับแรกบริเวณ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้มีการย่อตัวต่อ
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่31.320บาทต่อดอลลาร์สหรัฐและล่าสุดอยู่ที่ 31.645 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงประมาณ 0.325 บาท ซึ่งตลอดสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 31.220-31.660 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นจากการที่ราคาแตะ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วย่อหลุดต่ำกว่า 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใครที่ซื้อไว้บริเวณ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามที่แนะนำไว้ก่อนหน้าควรจะขายทำกำไรออกไปแล้ว
ตอนนี้ราคาใกล้บริเวณ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ถือว่าน่าทยอยซื้อกลับคืนบางส่วนและหากลงไปบริเวณ 1,295-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ซื้อคืนเพิ่มเติม แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุนทันที
คาดเป้าหมายระยะสั้นยังคงเป็น 1,350-1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ได้สะสมทองคำตามคำแนะนำเมื่อราคาต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็ยังแนะนำให้ถือทองคำต่อไป ซึ่งราคาขึ้นมาถึงเป้าของปี 2561 แล้วที่บริเวณ 1,290-1,300 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี 2561 เป้าหมายถัดไปที่ 1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาแม้ราคาทองคำโลกจะปรับขึ้นแต่ราคาทองคำแท่งในไทยกลับไม่ปรับขึ้นตาม เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเมื่อเทียบสกุลเงินดอลลาร์ สินค้าในตลาดอนุพันธ์อย่าง Gold Online ที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนผสมอยู่นั้นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรในทิศทางราคาทองคำโลก สามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ www.tfex.co.th
ข่าวเด่น