"วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์"เดินหน้าซื้อเรือใหม่เพิ่มอีก 2ลำ วางงบลงทุนรวมกว่า400 ล้าน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการขนส่งในอนาคต พร้อมเสนอขายไอพีโอ 280 ล้านหุ้น ลุยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน)หรือVLเปิดเผยว่า บริษัทได้ซื้อเรือมือสองจำนวน1ลำ ภายใต้ชื่อ “VL.21” โดยมีน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 5,676 เดทเวทตัน (DTW) ซึ่งเรือดังกล่าวมีมูลค่า 155 ล้านบาทหรือ 4.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการซื้อเรือครั้งนี้มีแหล่งเงินทุนมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท อีกทั้งบริษัทยังได้มีการซื้อเรือใหม่อีก1ลำ โดยมีน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 2,800 เดทเวทตัน (DTW) ซึ่งมีมูลค่า 256 ล้านบาท หรือ 7.85 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการซื้อเรือครั้งนี้มีแหล่งเงินทุนมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงิน และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ขณะเดียวกันวี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์มีการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกหรือIPO จำนวน 280 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำนวน 200 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ จำนวน 80 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็น 25% และ 10% ตามลำดับ ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้และจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ด้านแผนการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้เพื่อลงทุนขยายกองเรือ โดยการลงทุนซื้อเรือดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการต่อเรือใหม่หรือการซื้อเรือมือสองเพื่อนำมาให้บริการ อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาสถานการณ์ และสภาวะตลาดในขณะนั้นควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยเป็นการขนส่งทางทะเล ซึ่งสินค้าหลักแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันปาล์ม โดยมีการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับบริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันเป็นหลัก โดยในปัจจุบัน บริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด12 ลำ ซึ่งกองเรือมีอายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี มีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081เดทเวทตัน(DWT)และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร
สำหรับการขนส่งผลิตภัณฑ์ในประเทศจะเป็นการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้กับคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ เช่น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เป็นต้น
ข่าวเด่น