ประกัน
เมืองไทยประกันชีวิตร่วมกับสมิติเวชเปิด Virtual Hospital รายแรกของไทย


เมืองไทยประกันชีวิตผนึกสมิติเวชสร้างปรากฎการณ์ใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจโรงพยาบาลสู่ยุค 5G ผนึกพันธมิตรชั้นนำเปิดให้บริการ Samitivej Virtual Hospital โรงพยาบาลเสมือนจริงบนโลกออนไลน์ ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีให้ผู้รับบริการสามารถพบแพทย์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน ภายใต้คอนเซ็ปต์ #คลิกเดียวถึง


 
 
 
 
 
นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า ความท้าทายของธุรกิจด้านสุขภาพ(Healthcare) ขณะนี้คือการก้าวข้ามDigital Disruptionหรือการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงจากนี้ไป โดยผู้ให้บริการจะต้องคิดค้น พัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการให้ได้ทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

 
 
 
 
“สมิติเวชร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิดตัวบริการ Samitivej Virtual Hospital โรงพยาบาลเสมือนจริงบนโลกออนไลน์24 ชั่วโมง พบแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องมาโรงพยาบาลสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาแม้ไปต่างประเทศ เพราะมีการใช้เทคโนโลยีในด้านต่างๆของTelehealthเชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์เดิมที่มีอยู่เพื่อก่อให้เกิดบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ตั้งแต่การเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง สะดวกสบายด้วยการวิดีโอคอลกับแพทย์ของสมิติเวชโดยตรง ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและเห็นคุณค่าของเวลา ความสะดวกสบายเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้น ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้าน Healthcare Innovationของสมิติเวช”

โดยบริการของSamitivej Virtual Hospitalนั้นเริ่มตั้งแต่Teleconsultationให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่านวิดีโอคอล (Video Call)ด้วยทีมแพทย์และพยาบาลของสมิติเวชโดยเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง(โดยระยะแรกจะให้บริการเวลา 8.00-20.00 น.และเริ่มให้บริการ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 )บริการ Test @Homeในกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าต้องทำการตรวจเลือดจะมีบริการเจาะเลือดถึงบ้านแล้วนำส่งห้องปฏิบัติการทันทีและบริการ Medicine Deliveryในกรณีที่ผู้ใช้บริการต้องได้รับยา ที่สำคัญคือผู้ใช้บริการสามารถวางใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลเพราะสมิติเวชใช้ระบบรักษาข้อมูลตามมาตรฐานสากลHIPAA (Health Insurance Portability and Accountability Act)

 
 
 
สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจที่สมิติเวชร่วมมือกันเพื่อให้บริการSamitivej Virtual Hospitalนั้น นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)กล่าวว่าปรากฎการณ์ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการสร้างมิติใหม่สำหรับวงการประกันชีวิต ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิตสามารถให้ความคุ้มครองแก่สมาชิกผู้ถือกรมธรรม์ประกันกลุ่มของบริษัทฯที่ครอบคลุมการพบแพทย์แบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันของเมืองไทยประกันชีวิต ให้สามารถเคลมค่าใช้จ่ายได้ตามปกติ เสมือนการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล โดยบริษัทฯได้เริ่มเฟสแรกเป็นโครงการนำร่องกับพนักงานของบริษัทฯและปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อรองรับกับลูกค้าประกันกลุ่มของบริษัทฯคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้ โดยปัจจุบันครอบคลุม 3,500 บริษัท มีพนักงานกว่า 800,000 คน และในเฟสที่ 2 หรือประมาณกลางปีนี้และหลังจากนั้นจะเปิดให้กลุ่มที่ซื้อประกันภัยเอง

 
 
 
 
นายวีรชัย พัชโรภาสวงศ์ หัวหน้าฝ่ายงานขาย กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า“เอไอเอส ในฐานะผู้นำDigital Platform อันดับ1ของประเทศ เราเล็งเห็นเทรนด์ของการดูแลสุขภาพที่เติบโตขึ้น เราได้นำOnline Payment Platformมาสนับสนุนการให้บริการVirtual Hospital เพื่อรองรับการชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ ง่ายและปลอดภัย รวมทั้งสร้างช่องทางการเข้าถึงบริการดังกล่าวได้อย่างสะดวกสบาย ได้แก่เว็บไซต์ www.ais.co.th, Twitter, Facebook Fan Page, AIS LINE Official และแอปพลิเคชั่น my AIS จึงถือว่าเป็นการ Synergyกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้ทุกที่ทุกเวลา”

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร Commercial Director, LINE ประเทศไทย กล่าวว่า“สมิติเวชถือเป็นโรงพยาบาลแรกที่เป็นพาร์ทเนอร์กับLINEด้วยการเปิดออฟฟิเชียลแอคเคาท์และเชื่อมต่อ API กับแพลตฟอร์มเราภายใต้ Business Connect นับว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ มีการนำเอาเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มของ LINE ไปต่อยอดบริการที่มีอยู่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดย LINE เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางเพื่อเชื่อมต่อ (connect) บุคลากรทางการแพทย์จากสมิติเวชเข้ากับคนไข้ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและเชื่อถือได้ สำหรับความร่วมมือกับบริการSamitivej Virtual Hospitalในครั้งนี้ LINE ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อระหว่างแพทย์และผู้ใช้บริการแต่ในรูปแบบที่ล้ำสมัยขึ้น อำนวยความสะดวกให้ทั้งสองด้าน อย่างแรก คือการนำเอาVirtual Hospitalมาเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มLINE ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว อย่างที่สองคือโซลูชั่นด้าน O2O (Online to Offline) ของ LINE อย่าง LINE MAN ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม อำนวยความสะดวกให้คนไข้ เป็นตัวกลางในการจัดส่งยาให้ถึงมือผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็วและปลอดภัย”

ด้านนายอรพงศ์ เทียนเงิน ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า“หลังจากการประกาศความร่วมมือระหว่างไทยพาณิชย์และโรงพยาบาลสมิติเวชภายใต้แนวคิด “The First Prestige Wealth & Health Experience” เมื่อปีที่ผ่านมานั้น มาในปีนี้เราได้สานต่อความร่วมมือในการพัฒนาประสบการณ์การดูแลลูกค้ารูปแบบใหม่ ผ่านบริการ “Virtual Hospital” ใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) บริการ Teleconsultation ด้านสุขภาพเพื่อรองรับลูกค้า SCB Wealth 2) ซื้อประกันการเดินทางพร้อมบริการ Teleconsultation ผ่านทางแอปพลิเคชัน SCB EASY และ 3) บริการ Health & Homeตรวจเช็คสุขภาพนอกสถานที่โดยทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่สหสาขาวิชาชีพจากสมิติเวชสำหรับลูกค้าSCB Wealthโดยเฉพาะ ทั้งนี้ไทยพาณิชย์ยังเป็นช่องทางการชำระเงินหลักของบริการภายใต้โครงการฯนี้อีกด้วย”
 

 
 
 
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า“แสนสิริและสมิติเวชเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งมายาวนาน มุ่งมั่นพัฒนาบริการด้านการดูแลสุขภาพรวมถึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆทางการแพทย์มาเติมเต็มการอยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้าน ล่าสุดแสนสิริ โตคิว คอร์เปอเรชั่น ร่วมด้วยสมิติเวช พัฒนา
“เวลล์เนส เรสซิเดนซ์”(Wellness Residence) โครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสุขภาพที่ครบวงจรครั้งแรกในไทย โดยนำVirtual Hospitalมาให้บริการที่แรกในรูปแบบของอุปกรณ์พิเศษที่โครงการ
 
โดยสมิติเวชจะช่วยดูแลในเรื่องของการวางโซลูชั่นโปรแกรมการดูแลสุขภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์ เชิงป้องกัน ให้คำแนะนำและตรวจสุขภาพทางไกล ทั้งบริการเจาะเลือดถึงโครงการและบริการ Medicine Deliveryส่งยาให้กับลูกบ้าน ซึ่งลูกบ้านแสนสิริทุกโครงการยังสามารถใช้บริการVirtual Hospitalผ่านแอปพลิเคชันSansiri Home Serviceได้ นอกจากนี้ตลอดจนเป็นครั้งแรกของการฝึกอบรมจากทางสมิติเวชให้กับนิติบุคคลของโครงการที่ดูแลโดยPlus Property ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพเบื้องต้นแก่ลูกบ้านและพร้อมรับมือสถานการณ์ด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นในโครงการได้อย่างถูกต้องทันท่วงที ซึ่งถือเป็นการสร้างมิติใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์”

นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า “เอสซีจีเปิดมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพและผู้ที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลสู่บ้าน ภายใต้ Platform ใหม่ที่เรียกว่า SCG Smart Living Platform ด้วยแนวคิด Smart Home - Smart Health ที่ช่วยเติมเต็มการให้บริการทางการแพทย์ ผ่านระบบ “DoCare Protect” ซึ่งเป็นระบบ Health and Safety Monitoring ที่ช่วยดูแลและเฝ้าระวังการใช้ชีวิตภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยเพื่อให้บ้านกลายเป็นสถานที่ที่ดูแลคุณและครอบครัว รวมถึงสร้างความมั่นใจและสบายใจให้กับผู้อยู่อาศัยทุกคน โดยข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจากVital Sign อาทิ อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต อุณหภูมิร่างกายและข้อมูลกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ การนอนหลับหรือความเสี่ยงจากการล้มในห้องน้ำ ในห้องที่ติดตั้งอุปกรณ์IoT(Internet of Things)ไว้จะถูกส่งสัญญาณเชื่อมต่อไปยังCare Monitoring Centerของเอสซีจี ซึ่งดำเนินงานโดยพยาบาลวิชาชีพและส่งต่อข้อมูลที่จำเป็นให้กับสมิติเวชเพื่อใช้ประกอบในการให้การดูแลรักษาโดยแพทย์ผ่านการ Teleconsultation เพื่อให้บริการ Virtual Hospital เป็นไปอย่างสมบูรณ์”

จากความร่วมมือของพันธมิตรทั้งหมดทำให้Samitivej Virtual Hospitalเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของวงการสุขภาพในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดและต่างประเทศ เข้าถึงบริการได้ทุกที่โดยง่าย โดยการให้คำแนะนำทางการแพทย์นี้เป็นไปในกรอบจำกัดตามข้อมูลที่แพทย์ได้รับจากผู้รับบริการ ไม่สามารถให้บริการในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์เร่งด่วน หากหลังจากได้รับคำปรึกษาแล้วพบว่าผู้ใช้บริการมีความจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลจะมีบริการส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลในเครือหรือโรงพยาบาลใกล้เคียง

ผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน Samitivej Plus ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทั้งระบบ iOSและแอนดรอย์, www.samitivejhospitals.com, แอปพลิเคชันไลน์ @Samitivej และทุกช่องทางของพันธมิตรเร็วๆนี้

บันทึกโดย : วันที่ : 12 มี.ค. 2562 เวลา : 18:35:26
24-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 24, 2025, 12:32 am