บมจ. โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลและธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์mai 13 มี.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 425 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า“GSC”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่าmaiยินดีต้อนรับบมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ บริษัทย่อยของ บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป(ACAP) ข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มบริการโดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า“GSC”ในวันที่ 13 มีนาคม 2562
GSCดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล(Call Center Service)โดยให้บริการรับสายเรียกเข้าและบริการโทรออกไปยังกลุ่มเป้าหมายของผู้ว่าจ้างมีการให้บริการ ณ สำนักงานของบริษัทและการจัดหาเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานของผู้ว่าจ้างและธุรกิจติดตามทวงถามหนี้(Collection Service)โดยบริษัทฯเป็นผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)ซึ่งบริษัทฯจะให้บริการติดตามและทวงถามหนี้ทางโทรศัพท์ การส่งจดหมายและการส่งข้อความSMSเท่านั้น
GSCมีทุนชำระแล้ว125ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม160ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน90ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 27 ล้านหุ้นต่อผู้ถือหุ้นของ ACAP (Pre-emptive Right) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2562 และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน63ล้านหุ้น ต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯและบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 4 - 6 มีนาคม 2562 ในราคาเดียวกันที่ 1.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 153 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 425 ล้านบาท มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน)เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานกรรมการบริหาร บมจ. โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (GSC) เปิดเผยว่าบริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้มานานกว่า 14 ปี ให้บริการแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลากหลายภาคธุรกิจ อาทิ กลุ่มธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน นอกจากนี้ GSC ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าเพื่อมุ่งตอบสนองประโยชน์สูงสุดของลูกค้า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนขยายสาขา ปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
GSC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ ACAP ถือหุ้น 64% กลุ่มปิยะรัฐ ถือหุ้น 3.02% และกลุ่ม ธนาสุวรรณดิถี ถือหุ้น 2.97% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.70 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 30.51 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 มกราคม 2561- 31 ธันวาคม 2561) ซึ่งเท่ากับ 13.93 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0557 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี ทุนสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.gsc-servicecenter.com และ www.set.or.th
ข่าวเด่น