บล.โกลเบล็ก ระบุตลาดหุ้นไทยยังการจัดตั้งรัฐบาลผสมจะออกมาในรูปแบบไหน บวกเศรษฐกิจโลมีแนวโน้มชะลอตัวหลัง EU- สหรัฐรายงานตัวเลข PMI รวมภาคการผลิตและการบริการลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ส่งผลให้มีการโยกเงินเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะทองคำ มีลุ้นราคาปรับตัวไปทดสอบแนวต้าน 1,325 ดอลลาร์ ส่วนกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นให้กรอบดัชนี 1,615-1,635 จุด (ไม่รวมปัจจัยทางการเมือง) โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้งกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม-รับเหมา-ค้าปลีก-ท่องเที่ยว-โรงพยาบาล
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้หากตัดปัจจัยความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่ารัฐบาลผสมที่จัดตั้งขึ้นใหม่จะเดินหน้าต่อแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ด้านโครงการพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีลุ้นการทำ Window Dressing ก่อนปิดงวดไตรมาสแรกของปี 2562 โดยมีปัจจัยหนุนที่เป็นปัจจัยภายนอกได้แก่การที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้
ส่วนปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ มองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากอียู และสหรัฐฯรายงานตัวเลขดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า และตลาดพันธบัตรสหรัฐกำลังส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุ 3 เดือนดีดตัวขึ้นเหนืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี และนักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ YTD 1.1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้แนะนำจับตาวันที่ 25 มี.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.พ. และดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. วันที่ 26 มี.ค. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ. ราคาบ้านเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. วันที่ 27 มี.ค. จีน เปิดเผย กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.และก.พ. ส่วนสหรัฐ เปิดเผย ดุลการค้าเดือนม.ค. ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2561 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 28 มี.ค. อียู เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ส่วนสหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 4/2561 กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 4/2561 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.พ.และวันที่ 29 มี.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอนในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล คาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,615 - 1, 635 จุด(ไม่รวมปัจจัยทางการเมือง) โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ชู WHA, AMATA กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ชู STEC, SEAFCO หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC และ MAKRO รวมทั้งหุ้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก แนะนำ HMPRO, CPALL กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ AOT, CENTEL, ERWซึ่งได้ประโยชน์จาก Free Visa on Arrival กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกได้ปรับมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ Fed จะส่งสัญญาณในช่วงต้นปีหน้าว่ากำลังจะกลับทิศทางมาเป็นทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีแรงซื้อสะสมทยอยเข้าถือทองคำ หนุนราคาให้แกว่งเข้าหาแนวต้าน 1,325 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในเรื่อง Brexit และความไม่ลงรอยกับสหรัฐฯในเรื่องนโยบายต่างประเทศ ยังคอยกดดันสกุลเงินยูโร ซึ่งเป็นลบต่อราคาทองคำในรูปสกุลเงินดอลลาร์ให้ค่อย ๆ แกว่งขึ้น แทนที่จะดีดตัวขึ้นไปเพื่อสะท้อนแรงซื้อสินทรัพย์ลดความเสี่ยง อีกทั้งการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทที่ตอบรับผลการเลือกตั้ง ยังเป็นลบต่อราคาทองคำภายในประเทศ แต่ผลสรุปสุดท้ายของการจัดตั้งรัฐบาลจะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ จึงเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรระยะสั้นแบบ swing trade สำหรับราคาทองคำในรูปสกุลเงินบาท มองกรอบระยะสัปดาห์ระหว่าง 1,305-1,325 ดอลลาร์ และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคารักษาแนวโน้มการแกว่งขึ้นในกรอบจำกัดแบบค่อยเป็นค่อยไป
ข่าวเด่น