กรุงเทพประกันภัยประกาศแผนปี62 ตั้งเป้ามีเบี้ยประกันภัยรับรวมแตะ 20,000 ล้านบาท โต 15% มุ่งพัฒนาการให้บริการและยังคงเดินหน้าการขยายงาน ชู 4 กลยุทธ์หลัก และนโยบายคงค่าเบี้ยประกันภัย หวังสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ว่า บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาการให้บริการและยังคงเดินหน้าการขยายงานเพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562บริษัทตั้งเป้ามีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 20,000 ล้านบาท เติบโต 15% โดยบริษัทยังคงรักษาระดับกำไรจากการรับประกันภัยไว้ไม่ต่ำกว่า10%และกำไรต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 15 บาท
"บริษัทเชื่อว่าเป้าเบี้ยประกันภัยรับที่ 20,000 ล้านบาทไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากยอดขายรถใหม่ปีนี้น่าจะแตะ 1 ล้านคัน และบริษัทประกันภัยบางแห่งปรับขึ้นราคาเบี้ยประกัน ขณะที่BKI ยังไม่มีนโยบายปรับค่าเบี้ยในขณะนี้ ทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยของบริษัทใกล้เคียงกับระบบ"
ดร.อภิสิทธิ์ บอกด้วยว่าปีนี้บริษัทกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.การขยายงานด้านการประกันภัยภัยรถยนต์เชิงรุก โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 20% ส่งผลให้สัดส่วนเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มเป็น 43% เทียบกับปี 2561 ที่มีการขยายตัวที่ 41% โดยมาจากเบี้ยประกันภัยในภูมิภาคที่ในปีนี้จะขยายการคุ้มครองรถให้มากขึ้นเป็น 18 โมเดล การขยายประกันภัยรถบรรทุกที่มีน้ำหนัก 4-12 ตันและขนาดมากว่า 12 ตัน รวมถึงการขายประกันภัยสินค้าที่บรรทุกเพื่อให้ครอบคลุม และการขยายการประกันภัยประเภท 2+ และประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 โดยจะขยายไปให้รถประเภท Camry Altis Accord และCivic ซึ่งกลุ่มที่บริษัทจะรับประกันภัยเพิ่ม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสียหายต่ำ โดยส่วนใหญ่ไม่เกิน 50%
นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาการให้บริการหลังการขายและบริการสินไหมทดแทนยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำระบบ AI Motors Claims Contact Centerมาเป็นผู้ช่วยในการรับโทรศัพท์ ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มใช้ระบบได้ในช่วงต้นไตรมาส3 การให้บริการเคลมผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ภายใต้ชื่อ@bkimotorclaimsการนัดหมายนำรถเข้าซ่อมผ่านบริการRepairing Appointment Serviceซึ่งเป็นบริการเสริมสำหรับลูกค้าของบริษัท การรับแจ้งอุบัติเหตุผ่านแอปพลิเคชั่นBKI iCareภายใต้ฟังก์ชั่นการทำงานLocate Meเป็นต้น
2.การขยายในส่วนของ นันมอเตอร์ โดยบริษัทยังคงมุ่งขยายงานโครงการเมกะโปรเจค ประกันภัยภาครัฐ และงานตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น ประกันภัย เอ็นจิเนียริ่งAviationประกันภัยD&O (Director&Officer Liability Insurance) ซึ่งมีฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มและยังมีคู่แข่งขันน้อยราย โดยในส่วนรับประกันภัยนันมอเตอร์ บริษัทตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 3.การพัฒนาด้านเทคโนโลยี โดยการนำRobotic Process Automationมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลายในการทำงาน รวมทั้งสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนงานที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ปัจจุบันบริษัทกำลังศึกษาการปรับเปลี่ยนระบบรับประกันภัยหลักของบริษัท นอกจากนี้บริษัทได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นJourneys by BKIโดยการนำเทคโนโลยีAIมาใช้เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน การประเมินความปลอดภัยในการขับขี่ยานยนต์ เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้านต่างๆ รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์พิเศษเพื่อใช้เป็นส่วนลดร้านค้าและบริการต่างๆ ตลอดจนสิทธิพิเศษส่วนลดเบี้ยประกันภัยเฉพาะบุคคลจากบริษัทที่เสนอให้พร้อมกับเสนอแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับผู้บริโภค
และ4.การพัฒนาด้านอื่นๆได้แก่ การวางแผนเพิ่มจำนวนRisk Engineerและเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ เพื่อรองรับการขยายงาน เพิ่มอัตราการต่อกรมธรรม์เป็น 2% โดยในปี2561ที่ผ่านมามีการขยายตัว 83.1% เพิ่มจาก 81.7% ในปีก่อนหน้า และปี2562 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 85% การขยายงานลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเบี้ยประกันภัยรับจากลูกค้ารายย่อยเติบโต 8.1% และคิดเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัย 48.7% ของเบี้ยประกันภัยรับตรง นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ในจังหวัดสมุทรสาคร สุพรรณบุรี และลำปาง นอกจากนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม
ในส่วนของการพัฒนาแบบประกันภัย บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแบบประกันภัยให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวกรมธรรม์ใหม่ภายใต้ชื่อ”ประกันภัยโรคร้ายแรงจากยุง”คุ้มครองจากการเจ็บป่วยจาก 5 โรคร้ายที่เกิดจากยุง โดยมีเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 99 บาทต่อปี,199 บาทต่อปี,และ 299 บาทต่อปี รวม 3 แผน รับประกันภัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 70 ปี และสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้ถึง 100 ปี
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร BKI กล่าวว่า การขยายลงทุนในต่างประเทศในปีนี้จะขยายธุรกิจไปที่มาเลเซียในช่วงต้นปี 2562 และจะเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจไปกับสาขาของธนาคารกรุงเทพในประเทศจีน ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ส่วนสาขาที่ประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เริ่มมีกำไรดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าเบี้ยประกันภัยรวมในกัมพูชาจะเติบโต 10% และสปป.ลาวโต 15%
ข่าวเด่น