“บล.ไอร่า”เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเมษายนนี้ยังคงผัวผวน เนื่องจากวันหยุดยาว หวั่นส่งผลมูลค่าการซื้อขายเบาบาง-ชะลอการลงทุน แต่ยังมีปัจจัยบวกหนุนเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกปีนี้ แนะ 7 หุ้นน่าลงทุน “BGRIM-BCH-STEC-PTTEP-CBG-ADVANC-TSR”
โบรกเกอร์หลายค่ายประเมินทิศทางการลงทุนในช่วงเดือนเมษายนนี้ ต้องเผชิญกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังมีความผันผวน และมีความเป็นไปได้สูงที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ในฟากเบาบาง และมีโอกาสชะลอลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง เช่นเดียวกับ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ที่ประเมินแนวโน้มการลงทุนในเดือนนี้ ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสถานะผันผวน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีปัจจัยบวก ที่ยังคงน่าจับตาเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส1/2562 ที่คาดว่าภาพรวมจะออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น
ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมัน ยังได้รับปัจจัยหนุนจากแผนลดการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และเวเนซูเอลา ทำให้ภาวะตลาดน้ำมันตึงตัว ทำให้ส่งผลดีต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ยังให้น้ำหนักประเด็นกรณีการทางการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดชัดเจนหลังประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562
ดังนั้น ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า มองว่า หากมีความชัดเจนในกรณีดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อ Sentiment ตลาด ด้านตลาดทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากจะมีเสถียรภาพทางการเมือง ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก็จะส่งผลให้ Fund Flow มีโอกาสไหลกลับอย่างชัดเจนอีกครั้ง
“กรอบสัญญาทางเทคนิค ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า มองว่า หลังเดือนมีนาคม SET เคลื่อนไหว Sideway ระหว่าง 1,615-1,646 จุด และได้ทำ Double Bottom เมื่อดัชนีหลุด 1,620 จุด ถึง 2 ครั้ง และสามารถดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว”
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่าประเมินว่า ดังนั้นที่บริเวณ 1,615 จุด จะมีนัยสำคัญมาก เพราะหากหลุดไปจะเป็นสัญญาณขายที่มี Target ถัดไปที่ 1,580 จุด เป็นอย่างน้อย แต่หาก Break 1,646 จุด จะมีแนวต้าน Double Top ถัดไปที่ 1,680 จุด ซึ่งเป็นจุดที่มีนัยสำคัญมากเช่นกัน เพราะหาก Break ได้จะเป็นสัญญาณซื้อขนาดใหญ่ที่มี Target ถึง 1,750 จุดเป็นอย่างน้อย
พร้อมกันนี้ ทางฝ่ายวิจัย ยังคงแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่น่าลงทุน โดยให้น้ำหนักไปยังกลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ BGRIM และกลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH เนื่องจากมองว่าหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตสม่ำเสมอ แม้เศรษฐกิจมีความผันผวน
นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ ที่ทยอยเปิดประมูล พร้อมคาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากแผนการลงทุนต่อเนื่องในครึ่งปีหลังของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น STEC เป็นต้น
ในขณะที่กลุ่มพลังงาน แนะนำ PTTEP โดยคาดว่ายังได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ มีแนวโน้มดีขึ้น qoqคาดไม่มี Stock loss เช่นเดียวกับ ไตรมาส 4 ปี 2561หลังราคาน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
และกลุ่มที่มีความน่าสนใจทั้งจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มกลับมาเติบโต อาทิ CBG และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลเป็นประจำ เช่น ADVANC (Div.Yield ประมาณ 4.0%) และ TSR (Div.Yieldประมาณ 8.0%) เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า ยังแนะนำให้นักลงทุนจับตาปัจจัยต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรด้านการลงทุน โดยเฉพาะความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจ ทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ และติดตาม Inverted yield curve ที่เป็น 1 สัญญาณแสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอีก 12 หรือ 24 เดือนข้างหน้า
ขณะที่คาดยังมีความไม่แน่นอนทั้งต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และประเด็น Brexit ขณะที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน 2562-1 พฤษภาคม 2562 ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นไปตามการส่งสัญญาณก่อนหน้าชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ข่าวเด่น