การลงทุนในตลาดหุ้นไทยขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของไตรมาส 2 ดังนั้นทิศทางการลงทุนในช่วงนี้จะเป็นอย่างไรและมีทิศทางการลงทุนอย่างไรดี ถึงให้ได้กำไรหรือถ้าขาดทุนก็ต้องควรบาดเจ็บให้น้อยที่สุด
ดังนั้น“วิจิตร อารยะพิศิษฐ”ในฐานะนักกลยุทธ์การลงทุนค่าย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วันนี้ได้มาคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 โดย วิจิตร มองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ทิศทางยังคงแกว่ง sideway up ในกรอบแนวต้านระหว่าง 1700-1730 จุด และแนวรับระหว่าง 1600-1580 จุด
ทิศทางการลงทุนเป็นเช่นนี้ วิจิตรบอกว่าเป็นการขานรับอานิสงส์เชิงบวกจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย รวมถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภคในประเทศ บ่งชี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ในช่วงถัดไป โดยประเมิน GDP ไทยปีนี้เติบโตที่ระดับ 3.8%
นอกจากนี้วิจิตรย้ำด้วยว่ายังได้แรงหนุนเชิงบวกจากปัจจัยภายนอกที่ผ่อนคลายมากขึ้น นำโดยประเด็นสงครามการค้า หรือ Trade war ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสัญญาณบวกจากการพยายามเจรจากันระหว่างสหรัฐฯและจีน และมีความคาดหวังต่อการบรรลุข้อตกลงได้ในระยะถัดไป
“ดังนั้นจึงประเมินประเด็นสงครามการค้า ณ ปัจจุบันจะไม่เลวร้ายไปกว่าช่วงที่ผ่านมาแล้ว คาดจะช่วยปลดล็อคความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจโลกชะลอตัวให้กลับมาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น”
นอกจากนี้วิจิตรยังคาดด้วยว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะได้แรงหนุนเพิ่มเติมจาก นโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก เช่น FED และ ECB ที่ผ่อนคลายมากขึ้น สอดคล้องกับการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ที่สะท้อนมุมมองของคณะกรรมการ FED สาขาต่างๆว่าดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯในปีนี้มีแนวโน้มจะคงที่ในระดับเดิม หรืออาจจะมีโอกาสปรับลดลงด้วย
“หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่เร่งตัวขึ้นตามคาด ถือเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนา หรือ Emerging Market มากขึ้น”
วิจิตรบอกต่อว่าสำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาคือ ความชัดเจนต่อการแยกตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit โดยสิ่งสำคัญคือ หากสหราชอาณาจักร แยกตัวแบบไร้ข้อตกลง อาจส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งของสหราชอาณาจักรและกลุ่มสหภาพยุโรปในช่วงถัดไปได้
ส่วนปัจจัยในประเทศ วิจิตรแนะให้รอความชัดเจนการเมืองไทย หลังการเลือกตั้งว่าท้ายที่สุดจะเห็นเสถียรภาพเพิ่มเติมหรือไม่ ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
สำหรับธีมการลงทุนเด่นในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ วิจิตรแนะนำสะสมหุ้นใน 2 ธีมเด่น ได้แก่ 1.กลุ่มที่ตอบรับปัจจัยร้ายๆ ในช่วงก่อนหน้าไปมากแล้ว ขณะที่ Valuation เริ่มเข้าสู่ระดับที่น่าสนใจ ประกอบด้วย กลุ่มพลังงาน ซึ่งขานรับสถานการณ์สงครามการค้าที่ผ่อนคลายจึงแนะนำลงทุน PTTEP
ส่วนกลุ่มโรงกลั่นนั้นค่าการกลั่นผ่านจุดต่ำสุดในช่วงเดือนมกราคมไปแล้วและไตรมาส 2 คาดได้แรงหนุนจากอุปสงค์มากขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ผสานอุปทานลดลงจากโรงกลั่นทั่วโลกหยุดซ่อมบำรุงมากสุดในรอบปี จึงแนะนำลงทุน BCP
ด้านกลุ่มการแพทย์ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาตอบรับความกังวลต่อการควบคุมค่ารักษาพยาบาลไปมากแล้ว ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่น่าลงทุน แนะนำ BCH
2. กลุ่มที่คาดได้อานิสงส์เชิงบวกหลังการเลือกตั้ง และแนวโน้มอัตราการทำกำไรดีขึ้น ประกอบด้วย กลุ่มค้าปลีก คาดการบริโภคไทยเร่งตัวขึ้นสอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ แนะนำลงทุน BJC และ CPALL
ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาฟื้นเด่นตั้งแต่ต้นปี โดยประเมินปีนี้นักท่องเที่ยวมีโอกาสทะลุ 40 ล้านคน แนะนำลงทุน SPA
ข่าวเด่น