หุ้นทอง
ดัชนีหุ้นแนว"รับ-ต้าน"หลัก 1660-1700 จุด ทองหลุด1,282ดอลล์ควรขาย-รอซื้อที่1,260


สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าดัชนีหุ้นยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้แม้ว่าจะผ่านช่วงวันหยุดยาวมาแล้วก็ตาม โดยดัชนีหุ้นมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันและยังทำ New high ในรอบ 2 เดือนได้แล้ว โดยมีลักษณะเป็น Sideways Up โดยมีกรอบเส้นค่าเฉลี่ย 5วัน และเส้น Bollinger Topเป็นกรอบการเคลื่อนไหวในช่วงนี้


หากดัชนีหลุดลงมาแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแล้วปิดได้ไม่ต่ำกว่านี้ สามารถใช้เป็นแนวรับสำหรับเล่นดีดกลับสั้นๆได้ โดยเส้น Bollinger Top หน้าที่เป็นแนวต้านชั่วคราวเพื่อขายทำกำไรเล่นรอบ สำหรับสัปดาห์นี้จะมีแนวรับแนวต้านหลักๆที่1660-1700จุด

ดังนั้นในสัปดาห์นี้ตัวหุ้นที่น่าจับตาและนำมาแนะนำได้แก่ หุ้น SELIC ซึ่งมีแนวรับ 3.24-3.22 บาท และมีแนวต้าน 3.28, 3.36 บาท โดยระดับราคามีการดีดกลับขึ้นมาแรงปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5และ10 วันได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการปิดได้ในระดับสูงสุดของวันพร้อมปริมาณวอลุ่มซื้อขายที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อย

ในขณะที่ MACD เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้งไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์ หากวันนี้ (22 มี.ค.) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 3.22 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นผ่านแถวๆ 3.28 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 3.36 บาทต่อไป

ส่วนหุ้น WORKจะมีแนวรับ 23.90-23.70 บาท ส่วนแนวต้าน 24.60, 25.50 บาท โดยระดับราคามีความพยายามประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้ามีการดีดกลับขึ้นมาแรง แล้วถูกขายทำกำไรระยะสั้นในช่วงวันหยุดยาวหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันเล็กน้อย ก่อนดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นดังกล่าวได้ในวันถัดไป

หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ แนวรับที่ 23.90-23.70 บาทอีกน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้น Bollinger Top ที่ 24.60 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 25.50 บาทต่อไป

ขณะเดียวกันหุ้น SGP ก็ยังเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่แนะนำ เนื่องจากมีแนวรับ 9.85-9.80 บาท และแนวต้าน 10.00-10.10 , 10.40-10.50 บาท ซึ่งระดับราคามีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ในที่สุด หลังจากสัปดาห์ที่แล้วถูกขายทำกำไรกลับลงมาแรงพอสมควร แต่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ทำให้มีแรงซื้อกลับขึ้นมาโดยตลอด

ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 9.80 บาทแล้วไม่หลุด ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่านแนวต้านที่ 10.00-10.10 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 10.40-10.50 บาทต่อไป

ส่วนบรรยาการการลงทุนในตลาดทองปรากกฎว่าภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 13.00 น วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,275.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,290.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับลงถึง15.01ดอลลาร์ต่อออนซ์จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

โดยราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,270.70-1,291.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเริ่มต้นสัปดาห์ ราคาทองคำยังลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังสหรัฐมีการประกาศดุลการค้าประจำเดือนกุมภาพันธ์แสดงให้เห็นว่ามีการขาดดุลลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่มิถุนายน 2561 มาอยู่ที่ขาดดุลประมาณ 4.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้การขาดดุลให้กับการค้ากับประเทศจีนก็ลดลงถึง 28.2% สู่ระดับ 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วน GDP ประเทศจีนก็มีการขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัว 6.4% ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 6.3%

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าเล็กน้อย ประมาณ 0.05 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.790 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.740 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.730-31.850

คำแนะนำการลงทุนทองสำหรับนักลงทุนระยะสั้น เมื่อราคาย่อตัวต่ำกว่าแนวรับ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ให้ไว้ ทำให้ควรขายออกไปแล้วรอซื้อใหม่อีกครั้งบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยแนวต้านหรือเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากทะลุขึ้นไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านนักลงทุนระยะยาวยังมองเป้าหมายในปีนี้ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือใกล้เคียง จากที่เคยสะสมซื้อมาบริเวณต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำสะสมเพิ่มหากย่อมาต่ำกว่า 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์

LastUpdate 22/04/2562 07:49:24 โดย : Admin
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 9:41 pm