หุ้นทอง
หวั่นหุ้น"ซึมต่อ"สัปดาห์นี้-แนะสะสมทองเพิ่มหากต่ำกว่า 1,260 ดอลล์


ดัชนีเริ่มอ่อนตัวลงมาทำNew lowอีกครั้งในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันอีกครั้งและเป็นการปรับตัวลงมาในช่วงบ่ายเกือบปิด GAP ที่ 1662 จุดอีกด้วย


ในขณะที่MACDกำลังจะหลุดลงมาตัดเส้น SIGNALอีกครั้งแล้ว หากวันนี้ดัชนีอ่อนตัวลงต่อปิด GAP ดังกล่าว ดัชนีน่าจะซึมลงต่อได้แถวๆเส้นค่าเฉลี่ย25 และ 200 วันแถวๆ1656-1654 จุดต่อไป สำหรับแนวต้านแรกอยู่แถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่ 1669-1670 จุด หากดัชนีดีดกลับขึ้นปิดเหนือสองเส้นดังกล่าวไม่ได้เป็นอย่างน้อย ดัชนีน่าจะซึมลงได้ต่อไป

ส่วนหุ้นบางตัวที่น่าจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ BEM ซึ่งมีแนวรับ 10.40-10.20 บาท และแนวต้าน 10.50, 10.80-11.00 บาท เนื่องจากระดับราคามีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันต่อเนื่องติดต่อกันราวๆ 1 สัปดาห์แล้วพร้อมปริมาณวอลุ่มที่น้อยแต่สม่ำสมอ

ขณะที่ระดับราคาก็พร้อมดีดกลับหากมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากวันนี้(29) ระดับราคาดีดกลับผ่าน 10.50 บาทขึ้นทำ New high ได้ ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 10.80 บาทหรือขยับขึ้นทำ New high ต่ออีกครั้งแถวๆ 11.00 บาทต่อไป

นอกจากนี้หุ้น ICHIก็เป็นอีกหุ้นหนึ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีแนวรับ 3.96, 3.88 บาท และมีแนวต้าน 4.08-4.10, 4.30 บาท เนื่องจากระดับราคามีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ในลักษณะกระโดดเปิด GAP เล็กน้อย และขยับออกไปเล่นนอกกรอบ Bollinger Top พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก

หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆเส้น Bollinger Top ที่ 3.96 บาทอีกหรือเต็มที่ไม่หลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 200 วันที่ 3.88 บาทซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 4.08-4.10 บาท และ 4.30 บาทต่อไป

รวมถึงหุ้นJKNซึ่งมีแนวรับ 8.15-8.10 บาท ส่วนแนวต้าน 8.35-8.40 , 8.65 บาท โดยระดับราคามีความพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 8.35 บาทแต่ยังปิดเหนือไม่ได้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นแบบรุนแรงพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ MACD ที่แกว่งตัวใกล้ๆ ศูนย์มีโอกาสปรับตัวขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้อย่างมีนัยสำคัญ หากวันนี้ (29 เม.ย.) ระดับราคาดีดกลับผ่าน 8.35 บาทขึ้นทำ New high ได้ ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 8.65 บาทต่อไป

ด้านการเคลื่อนไหวตลาดทองคำสรุปภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 12.00 น วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,279.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,275.51ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นเล็กน้อยประมาณ 4.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นกดดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง

ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,266.27-1,282.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงกลางสัปดาห์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเช่น ยอดขายบ้านใหม่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้มีแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นและเกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำออกมาจนราคาทองคำโลกลงไปแตะจุดต่ำสุดบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเข้าใกล้แนวรับทางเทคนิคที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ SPDR ยังมีการขายทองคำออกมาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน

ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำดีดขึ้นเล็กน้อยหลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า โดยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น 37,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่ กันยายน 2560 ทำให้มีแรงซื้อทองคำกลับคืนเล็กน้อย

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าต่ออีกประมาณ 0.185 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 32.010 บาทต่อดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.825 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.770-32.145

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคาย่อตัวต่ำกว่าแนวรับ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ให้ไว้ ทำให้ควรขายออกไปแล้วรอซื้อใหม่อีกครั้งบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านหรือเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากทะลุขึ้นไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังมองเป้าหมายในปีนี้ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือใกล้เคียงจากที่เคยสะสมซื้อมาบริเวณต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำสะสมเพิ่มหากย่อมาต่ำกว่า 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 เม.ย. 2562 เวลา : 07:40:10
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 9:34 pm