หุ้นทอง
"ชาญชัย กงทองลักษณ์"ชี้นักลงทุนใช้ Future-Option คล่องหนุนวอลุ่มเทรด TFEX


“ชาญชัย กงทองลักษณ์” ชี้นักลงทุนใช้ Future-Option คล่องหนุนวอลุ่มเทรด TFEX เติบโตก้าวกระโดด


ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือTFEXปีนี้ย่างก้าวสู่ปีที่ 14 เท่ากับอายุเด็กวัยรุ่นช่วงต้น ที่มีพัฒนาการการเติบโตอย่างมีศักยภาพและมีการปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนได้จากปริมาณการซื้อขายตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งเป็นปีแรกในการเปิดให้บริการมาจนถึงปี 2561เติบโตเฉลี่ยปีละ 57.06%

ดังนั้นหากเทียบกับตลาดอนุพันธ์ทั่วโลก ปัจจุบันTFEXปริมาณการซื้อขายอยู๋ในอันดับที่ 26และในปีนี้ TFEX ก็ยังไม่หยุดพัฒนาคุณภาพของสินค้า บริการ และส่งเสริมสภาพคล่องให้มีศักยภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น เป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ และเข้าถึงกลุ่มผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมุ่งเน้นในการเสริมภูมิความรู้ด้านกลยุทธ์และเครื่องมือในการซื้อขาย “Algorithmic Trading” หรือนำเทคโนโลยี่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของผู้ลงทุนใน TFEX
 
 
 

“ชาญชัย กงทองลักษณ์” กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ จำกัด ได้สะท้อนมุมมองในงานสัมมนาของTFEX หัวข้อเรื่อง“พัฒนการของTFEX โอกาสและความท้าทาย”เพื่อเสริมความรู้และโอกาสให้แก่ผู้ลงทุนและเป็นการเตรียมตัวของผู้ลงทุน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะขึ้นว่า ในช่วงก่อตั้งTFEXและเติบโตมาถึงวันนี้ ยอมรับว่าช่วง3ปีแรก TFEX ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้ลงทุนในบ้านเรา

“ในช่วงต้นการพัฒนา TFEX จึงเน้นหนักไปกับการวางกฎเกณฑ์ สร้างมาตรฐานการทำงานของอุตสาหกรรม” ชาญชัย กล่าว

จากนั้นพอเข้าสู่ช่วงที่สองTFEXก็เริ่มเข้าที่เข้าทางและเริ่มมีการเพิ่มจำนวนสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ โดยสินค้าจากเดิมมีเพียง SET50 Index Future ก็เริ่มมี Option และมี Single Stock Future และอีกหลากหลายสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกและกรกระจายความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย

“ช่วงที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปดูงานที่ตลาดหุ้นอินเดีย พบว่าSingle Stock Future บูมมาก ส่วนเกาหลีและไต้หวัน Optionจะบูมมาก พวกผมก็ไปพยายามดูว่า สินค้าประเภทไหน ที่ถูกจริตกับคนไทยแล้วก็พบว่า Single Stock Future น่าจะเหมาะกับคนไทยและจากนั้นก็ได้เพิ่มสินค้าใหม่ๆ เช่น โภคภัณฑ์”

ชาญชัย บอกต่อว่าในช่วงที่สองนี้จะเป็นเรื่องการพัฒนาสินค้าใหม่ ซึ่งถึงจุดนี้สินค้าในTFEXก็มีปริมาณที่พอเพียง และเอื้อปประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือตราสารต่างๆที่จำเป็นต่อประเทศและจากนี้ไปก็จะมีเพิ่มสินค้าให้มากขึ้นตามลำดับ

และในส่วนช่วงสุดท้าย สิ่งที่ร่วมกันพัฒนา คือเพิ่มสภาพคล่องและความลึกของตลาดให้มากขึ้น เพราะมีสินค้าบางตัวที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว เช่น SET50 Index Future แต่สิ่งที่ TFEX และผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามทำต่อ คือ การเพิ่มสภาพคล่องให้กับสินค้าตัวอื่นๆที่ยังมีสภาพคล่องไม่มากพอได้อย่างไร เช่น SET50 Index Option , Single Stock Future รวมไปถึงยางพารา

ชาญชัย บอกต่อว่าสิ่งเหล่านี้เราพยายามผลักดันเสริมสร้างโดยใช้กลไกต่างๆ เพื่อเอื้อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและชักชวนสมาชิกเข้ามาเป็นมาร์เก็ตแมคเกอร์ เพื่อตอบโจทย์เมื่อนักลงทุนอยากซื้อต้องได้ซื้อ อยากขายต้องได้ขาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ

“ดังนั้นในปีนี้ผมคิดว่าTFEXอยู่ในช่วงของการเพิ่มความลึก หรือสภาพคล่องในตลาด สิ่งที่เราคาดหมาย เช่น Single Stock Future วันใดที่ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรง (stock market crash) หรือหุ้นตัวไหนที่ Active วันนั้น ตลาด Future ก็น่าจะActiveไปด้วย นี่ก็เป็นพัฒนาการของ TFEX ตลอด 13 ปี ผมคิดว่า TFEX ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะปรับปรุงและพัฒนาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”

ชาญชัย ยังย้ำว่าในแง่ปริมาณการซื้อขายของ TFEX ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอใช้ได้ แต่เท่าที่ติดตามพัฒนาการปริมาณการซื้อขายของตลาดอื่น TFEX ยังอาจจะช้ากว่าตลาดอื่นนิดหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความเข้าใจของคนในอุตสาหกรรม เพราะถ้าเราเข้าใจ Option มากขึ้นว่าคืออะไร แล้วใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้คล่อง ปริมาณธุรกรรมจะหลากหลายขึ้น หรือมีปริมาณการวื้อขายก็เพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่TFEXแต่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น ทุกครั้งที่มี position ในตลาดอนุพันธ์ แต่อีกขาหนึ่งก็จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงและจะเกิดธุรกรรมเกิดขึ้นในตลาดหุ้น ซึ่งทำให้ปริมาณซื้อขายของทั้งสองตลาดโตไปด้วยกัน

“ผมมองว่าความเข้าใจและการใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เป็นและเราสามารถนำสินค้าเหล่านี้ไปทำให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นก็จะเกิดธุรกรรมที่มากขึ้น เบื้องต้นผมคิดว่าตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เราก็พัฒนามาด้วยความมั่นคง มีรูปแบบที่ชัดเจน และในย่างก้าวต่อไปก็จะเกิดความเจริญเติบโตในธุรกิจของ TFEX มากยิ่งขึ้น”

ชาญชัย กล่าวว่าปีนี้เขาอยากเห็นนักลงทุนมีพัฒนาการในการลงทุน เพราะในทุกตลาดต้องมีนักลงทุนทุกกลุ่ม และนักลงทุนทุกกลุ่มก็ต้องมีความแข็งแรงเท่ากันหมด ลักษณะแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่สมบูรณ์

นอกจากนี้การลงุทนในตลาดอนุพันธ์ ไม่จำเป็นต้องเก็งกำไรเสมอไปแต่เป็นการลงทุนที่แตกต่างและควรให้ความรู้กับผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อปรับมุมมองการลงทุนใน TFEX ไม่ใช่เป็นตลาดแค่ลงทุนเพื่อเก็งกำไร แต่สามารถลงทุนเพื่อการบริหารพอร์ตหรือกระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้

“มองตลาดขึ้นให้ใช้ Future และถ้ามองตลาดขึ้นๆ ลงๆ ก็ควรใช้ option แล้วไม่ต้องไปสนใจอะไร เพียงแค่ใช้เครื่องมือที่มีให้แล้วหยิบมาใช้อย่าคิดซับซ้อน ถ้าคิดทิศทางถูกก็จะมีกำไรแน่นอน”

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 พ.ค. 2562 เวลา : 18:42:13
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 9:33 pm