อาการของดัชนีไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกได้ว่า มีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวในระดับสูง หลังจากดัชนีขยับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ได้และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ต่อเนื่อง ในขณะที่ MACD ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเล็กน้อยและยืนเหนือระดับศูนย์ได้พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่ลดลงเล็กน้อย
หากวันนี้ (7 พ.ค.) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 1,678 จุด หรือเต็มที่ไม่ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ที่ 1,676-1,673 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 1,683 จุดขึ้นทำ New high แถวๆเส้นBollinger Top ที่1,688 จุดต่อไป
สำหรับหุ้นที่แนะนำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ AU มีแนวรับ 9.05-9.00 บาท และมีแนวต้าน 9.30 บาท โดยระดับราคามีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ในช่วงต้นสัปดาห์และประคองตัวยืนเหนือได้โดยตลอดพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้(7) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 9.05-9.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมแถวๆ 9.30 บาทได้ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีหุ้น GCAPซึ่งมีแนวรับ 2.84-2.78 บาท ส่วนแนวต้าน 2.94-2.98 บาท โดยระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันและขยับออกไปเล่นนอกกรอบ Bollinger Top เล็กน้อย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.84-2.78 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมและเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 2.94-2.98 บาทต่อไป
ส่วน STPI จะมีแนวรับ 7.10 บาท มีแนวต้าน 7.35-7.45 , 7.60 บาท โดยระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์และปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก อีกทั้ง RSI ที่กำลังดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 7.10 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 7.35-7.45 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high แถวๆ เส้น Bollinger Top ที่ 7.60 บาทต่อไป
ส่วนบรรยากาศการลทองคำ โดยสรุปภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่าน เมื่อถึงเมื่อเวลา 12.00 น วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,273.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,282.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นประมาณ 9.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมในรอบเดือนเมษายน
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,268.85-1,290.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ SPDR ยังมีการขายทองคำออกมาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน แต่ราคาทองคำโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ทำไว้สัปดาห์ก่อนบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งได้ผลบวกมาจากแรงกดดันของประธานาธิบดีสหรัฐที่กดดันให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้เดินหน้าได้ต่อ
ซึ่งผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐหรือ FOMC ประจำเดือนเมษายน แม้จะออกมาว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25-2.50 เปอร์เซ็นต์ ก็เพียงพอที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นได้ ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นที่ผิดหวังว่าเฟดอาจจะส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยบ้าง จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับร่วงลงและทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมีแรงซื้อคืนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำยังถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ อย่างเช่นตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสถาบัน ADP ที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 2.75 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้เกือบแสนตำแหน่ง
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าต่ออีกประมาณ 0.085 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 32.025 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.940 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.870-32.070 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคาย่อตัวต่ำกว่าแนวรับ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ให้ไว้ ทำให้ควรขายออกไปแล้วรอซื้อใหม่อีกครั้งบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านหรือเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากทะลุขึ้นไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังมองเป้าหมายในปีนี้ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือใกล้เคียง จากที่เคยสะสมซื้อมาบริเวณต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำสะสมเพิ่มหากย่อมาต่ำกว่า 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น