“บล.โกลเบล็ก”คัดหุ้นเด่นเป้า MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนปลายเดือนนี้ ชู BH-TRUE-IRPC-PTTGC-BDMS-CPN-HMRPO-SCC
บล.โกลเบล็กจัดขบวนหุ้นเด่น MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยรอบใหม่จากเดิม 2.5% เป็น 3%มีผลปลายเดือนพฤษภาคมนี้ หลังปัจจัยทางการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจน และสงครามการค้าสหรัฐ-จีนส่อตึงเครียดรอบใหม่ โดยให้กรอบดัชนี 1,655 -1,685 จุด แนะ BH-TRUE-IRPC-PTTGC-BDMS-CPN-HMRPO-SCC เด่น ส่วนด้านราคาทองคำลุ้นปรับตัวยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนแห่ลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลสงครามการค้า
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือGBS กล่าวว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก MSCI ได้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยรอบใหม่จากเดิม 2.5% เป็น 3% มีผลปลายเดือนพฤษภาคม 2562 และราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านจากการที่สหรัฐตรียมใช้กำลังทหารเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน การที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าและที่อยู่อาศัยเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี รวมทั้งปัจจัยใหม่ที่เป็นประเด็นบวกด้านการเมืองในประเทศที่มีความคืบหน้าในการประกาศผลเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต 349 คนหรือมากกว่า 95%ของส.ส.ทั้งหมด
ส่วนปัจจัยลบที่กดดันในช่วงนี้เป็นความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ใช้เวลาในการเจรจายาวนานมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดสหรัฐประกาศเตรียมปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จาก 10% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้เวลา 12.01 น.ตามเวลาสหรัฐ ทำให้ประเด็นสงครามการค้าที่กลับมามีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาในวันที่ 8 พ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) และประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 3/2562 ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงิน ส่วนจีน เปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย. สหรัฐ เปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ส่วนวันที่ 9 พ.ค. จีน เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)เดือนเม.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. วันที่ 10 พ.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.และวันที่ 13พ.ค.จีน เปิดเผยยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนเม.ย.
ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนที่กลับมาอีกครั้งหลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่เตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันศุกร์นี้ คาดดัชนี SETจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,655 - 1,685 จุด
แนะนำลงทุนหุ้นในตลาด mai ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ หุ้น SPA ได้ประโยชน์จากการช่วงเวลา free Visa on Arrival ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในช่วง low season AU มีลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าร้อยละ 25 รวมทั้งในช่วงไตรมาสแรกเปิดสาขาใหม่อยู่ในย่านท่องเที่ยว หุ้นTACC ได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากมาตรการท่องเที่ยวช่วยหนุนนักท่องเที่ยวเข้าร้าน 7-11 มากขึ้นรวมทั้งฤดูร้อนและเทศกาลวันหยุดในช่วงสงกรานต์ทำให้ยอดขายสินค้าขยายตัวดีมาก
รวมทั้งหุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนในดัชนี MSCIแต่ยัง Laggard (ราคาปรับขึ้นต่ำกว่า 5%YTD) โดยแนะนำหุ้นเด่น ดังนี้ BH, TRUE, IRPC, PTTGC, BDMS, CPN, HMRPO และ SCC
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าราคาทองคำรีบาวด์กลับขึ้นมาตามแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนล๊อตใหม่เพื่อบีบให้จีนยอมถอยในการประชุมลดข้อพิพาททางการค้า ซึ่งมีโอกาสที่จะไม่ได้ข้อยุติ ถ้าหากผลประโยชน์จากการเจรจาเอื้อให้แก่สหรัฐฯเพียงฝ่ายเดียว ในกรณีนี้ ราคาทองคำมีโอกาสจะกลับขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามสำหรับมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงแกว่งลงและยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัว จึงมีความเสี่ยงขาลงมากกว่าและเนื่องจากแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในกรอบจำกัดระหว่าง 31.85–32.10 บาทต่อดอลลาร์ นักลงทุนจึงควรรอให้ราคาทองคำออกจากช่วงสวิงระหว่าง 1,265–1,290 ดอลลาร์ ค่อยพิจารณาเปิดสถานะตาม
ข่าวเด่น