กลุ่มบริษัทเอไอเอประกาศอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่(VONB) ร้อยละ 18 จากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า“เอไอเอ เริ่มต้นปีได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่(VONB)เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 1,169 ล้านเหรียญสหรัฐ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ซึ่งเป็นมูลค่าธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสที่สูงที่สุดของเรา ส่งผลต่อภาพรวมผลงานการเติบโตระหว่างปีจากตัวเลขผลประกอบการ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินกลยุทธ์การเติบโตที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความคุ้มครองทางการเงินและการออมเงินในระยะยาว ทั่วทั้งตลาดต่างๆ ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการที่เอไอเอสามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณภาพสูง และเป็นพันธมิตรในทุกช่วงชีวิตแก่ลูกค้าของเรา เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จนี้
ความได้เปรียบในการแข่งขันของเอไอเอในเรื่องช่องทางการขายผ่านตัวแทนและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนามาหลายปีล้วนเป็นตัวขับเคลื่อนโครงสร้างการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ เราได้ใช้โอกาสเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ในการสร้างมูลค่าที่เติบโตและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนสนับสนุนลูกค้าของเราให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better Lives)”
สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1
มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ18 เป็น 1,169 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากทั้งช่องทางการขายฝั่งตัวแทนและพันธมิตร เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2561 เอไอเอในประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในไตรมาสแรก โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ยอดเยี่ยมในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์พรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency)ที่แตกต่างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่ออัตราการเติบโตของจำนวนตัวแทนและผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นของตัวแทน นอกจากนี้ เรายังได้เริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมของศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจิน และเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย
ธุรกิจของเราในฮ่องกงมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักของมูลค่าธุรกิจใหม่(VONB)ในไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากช่องทางการขายผ่านตัวแทนและพันธมิตร ซึ่งการเติบโตของตัวแทนเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนตัวแทน ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่มีการเติบโตทั้งตลาดภายในประเทศและในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
สำหรับการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศไทย เป็นผลมาจากการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรของเราอย่างธนาคารกรุงเทพ โดยเราได้เห็นแรงผลักดันในการเปิดรับบุคลากรใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพของผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิต นอกจากนี้การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนช่องทางตัวแทน ยังส่งผลต่อการเติบโตของจำนวนตัวแทนที่มีคุณภาพ
ประเทศสิงคโปร์มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2561 เนื่องจากอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ลดลงจากการลดลงของเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวของยูนิต ลิงค์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ตามการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561
มูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศมาเลเซียมีอัตราคงที่จากความท้าทายด้านเงื่อนไขทางการตลาด สำหรับช่องทางการขายผ่านตัวแทนมีจำนวนการรับสมัครและการอบรมเป็นไปตามเป้าหมายและมีอัตราการเติบโตของตัวแทน ในขณะที่ช่องทางการขายผ่านธนาคารมีรายงานผลการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่
สำหรับตลาดอื่นๆของเรามีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกประจำปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เวียดนาม และออสเตรเลีย(ซึ่งรวมประเทศนิวซีแลนด์) อัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย เป็นผลมาจากการเข้าถือครองหุ้นในบริษัทโซเวเรน (Sovereign) ในประเทศนิวซีแลนด์และการต่ออายุเบี้ยประกันของประกันกลุ่มในประเทศออสเตรเลีย
ในภาพรวมเบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก(ANP)เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2561 คิดเป็น 1,827 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 63.6 จากร้อยละ 59.7 ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสมมุติฐานของการดำเนินงาน ที่ส่งผลดีอย่างยั่งยืน สำหรับอัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) มีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 11 จากร้อยละ 10 ในไตรมาสแรกของปี 2561 ทั้งนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสมมุติฐานเชิงเศรษฐกิจในระยะยาวที่แตกต่างจากที่ปรากฏอยู่ในรายงานประจำปี 2561ของเราในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 8,276 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบทียบกับไตรมาสที่1 ปี 2561 เนื่องจากเรายังคงมีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของเรา
ภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ยังคงมีความยืดหยุ่นและมีการกำหนดนโยบายเชิงรุกเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่แข็งแกร่งภายในและจำนวนบุคลากรของเรา ยังคงส่งผลดีแก่โครงสร้างองค์กรในระยะยาวต่อธุรกิจของเอไอเอ เรายังคงมีความมั่นใจในศักยภาพของเราในการสร้างมูลค่าที่เติบโตและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของเราต่อไป
ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยนเอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ในรายงานงบการเงินของกลุ่มที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น เราจึงมีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่นเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจระหว่างปี
ข่าวเด่น